Monday, September 26, 2011

David Guetta ใครว่าทำเป็นแต่เพลงตลาด

Technorati Tags: ,

ถ้าจะไล่เรียงชื่อดีเจชื่อดังในโลกตอนนี้ แน่นอนว่า พลาดไม่ได้ที่จะใส่ชื่อของ David Guetta ดีเจและโปรดิวเซอร์เพลงแดนซ์จากฝรั่งเศษที่ประสบความสำเร็จในวงกว้างอย่างงดงามจริงๆครับ เพราะตอนนี้ถ้าไปเที่ยวคลับ คงไม่พลาดที่จะได้ฟังเพลงแดนซ์ที่ติดหูจริงๆของเขาครับ

david-guetta-4

David Guetta คือ หนุ่มปารีเซียง ฝรั่งเศส ที่เริ่มสนใจงานดีเจตั้งแต่สมัยยังเป็นวัยรุ่น และสร้างผลงานเพลงพร้อมทั้งเป็นดีเจ และดูแลคลับมาตั้งแต่ยุค ’90 และก็มีผลงานที่เป็นที่นิยมในคลับในฝรั่งเศสบ้าง ซึ่งก็เป็นโชคของเขาที่มันเป็นยุครุ่งเรืองของดนตรีเฮาส์จากฝรั่งเศสที่เบ่งบานไปทั่วยุโรปด้วยการเจาะตลาดของรุ่นพี่ระดับตำนานอย่าง Daft Punk หรือ Dimitri from Paris ซึ่งการทำงานเพลงในยุคนั้นก็ได้สร้างเสริมประสบการณ์ให้เขาก่อนที่จะเริ่มเบ่งบานตามหลังรุ่นพี่

Monday, September 19, 2011

Frank Turner – England Keep My Bones

Frank_Turner_-_England_Keep_My_Bones_Cover

ผลงานชิ้นที่ 4 ของชายหนุ่มผู้ขยันสร้างผลงานเพลง Frank Turner คืออดีตสมาชิกวง Post-Hardcore ชื่อ Million Dead แม้จะทำงานเพลงแบบนี้ แต่ถ้าดูแบคกราวด์ เขาก็จัดได้ว่าเป็นพวกอำมาตย์เหมือนกันนะครับ มาจากครอบครัวปู่เป็นท่านเซอร์คนรวย แถมเรียนที่อีตั้นรุ่นเดียวกับเจ้าชายวิลเลียมส์ด้วย แต่งานเพลงของเขา กลับเริ่มจากเพลงPost-Hardcore ก่อนจะมาเป็นเพลงร๊อคผสมโฟลค์และมีกลิ่นของความเป็นพังค์ ก็แปลกดีนะครับ

Red Hot Chilli Peppers – I’m with You

new-red-hot-chili-peppers-album-im-with-you-album-7216-1309908193-1

การกลับมาครั้งล่าสุดของวงที่ผมคุ้นเคยมานานที่สุดอีกวงนึงก็ว่าได้ครับ เพราะตอนผมเริ่มฟังเพลงใหม่ๆ เพลง Under the Bridge ของ RHCP ก็กำลังดัง และเป็นช่วงพีคของผลงานของพวกเขาก็ว่าได้ครับ เพราะว่าอัลบั้ม Blood Sugar Sex Magik ของพวกเขากำลังเป็นอัลบั้มดังอย่างมาก และประสบความสำเร็จทั้งยอดขายและเสียงวิจารณ์ในช่วงนั้นเลยทีเดียว

Monday, September 12, 2011

Story of the Year อีกความมันที่กำลังจะมาเยือน

Technorati Tags: ,

บางที ความสุขมันก็มากันแบบติดๆจนไม่น่าเชื่อนะครับ นี่ เดี๋ยว X-Japan จะมาแล้ว แล้วยังมีข่าวว่า อีกวงหนึ่ง ที่เล่นสดได้เมามันเต็มที่อย่าง Story of the Year ก็จะมาเปิดคอนเสิร์ตที่เมืองไทย ให้ขาร๊อคได้มอชกันให้มันเลยทีเดียวครับStory of the Year คือวงจากท้องถิ่นเซนต์หลุยส์ มิซซูรี่ หลังจากที่เป็นวงท้องถิ่นมานาน โดยใช้ชื่อ Big Blue Monkey มาก่อน ก่อนจะเปลี่ยนเป็น Story of the Year เพื่อว่ามีวงที่ชื่อซ้ำกันมาก่อนแล้ว จึงเลือกชื่อวงใหม่จาก EP ที่ออกมาในตอนนั้น โดยสมาชิกคือ Dan Marsala (แดน ร้องนำ) Ryan Phillips (ไรอัน กีตาร์) Philip Sneed (ฟิลลิป กีตาร์) Adam Russell (อดัม เบส) และ Josh Wills (จอช กลอง)

Story of the Year 2_by Chris Dowsett

และเหมือนจะเป็นชื่อนำโชค เพราะหลังจากเล่นท้องถิ่น ออกผลงานแบบอินดี้ พวกเขาก็ไปเข้าตาค่าย Maverick และได้ออกผลงานชิ้นแรกในระดับประเทศชื่อ Page Avenue ในปี 2003 โดยมีซิงเกิ้ลเปิดตัวอย่าง Until the Day I Die ที่เริ่มต้นอย่างช้าๆ ก่อนที่จะกระชากอย่างเมามันให้แฟนได้สะใจ ในแนวเดียวกับวงบอดี้แสลมยุคเก่าล่ะครับ ตามมาด้วยซิงเกิ้ลที่สองอย่าง Anthem of our Dying Day ที่มาในแนวเดียวกับเพลงแรก พวกเขาเน้นอัดความหนักหน่วงเข้าไปในช่วงที่ต้องอัดอย่างเต็มสูบจริงๆครับ ส่วนอีกเพลงที่หลายคนน่าจะรู้จักคือ And The Hero Will Drown ที่อัดหนั่งหน่วงเต็มสูบตั้งแต่ต้นเพลงในแบบฮาร์ดคอร์แท้ๆ ก็ได้ไปอยู่ในเกม Need For Speed: Underground ที่ฮิตถล่มทลายนั่นล่ะครับ ทำให้ชื่อพวกเขาเป็นที่รู้จักในตลาดวงกว้างขึ้น และตัวอัลบั้มเองก็ไม่ทำให้แฟนของแนวเพลงโพสต์ฮาร์ดคอร์ผิดหวังครับ เพราะมันเต็มไปด้วยกำลังที่อัดแน่นไปทั้งอัลบั้มจริงๆครับ

Sunday, September 11, 2011

Summer Wars เรื่องวุ่น ตระกูลใหญ่

Technorati Tags: ,

320396_10150363567530289_634175288_10108663_2334178_n317550_10150363567655289_634175288_10108664_382722_nIMG_0002

ในที่สุด การ์ตูนเรื่องที่ผมแปลอีกเรื่อง ก็ออกมาครบชุดจนได้ครับ เรื่อง Summer Wars ที่มาจากอนิเมะดังระดับชิบหายเลยทีเดียว ผมเองก่อนที่จะมาแปล ก็ไม่ได้ดูหรอกครับ ได้ยินแต่คำชม แล้วชอบการออกแบบตัวละครของ ซาดาโมโต้ โยชิยูกิ (คนที่ออกแบบตัวละครให้ Evangelion นั่นล่ะครับ) แต่พอเห็นวางในสนพ. ก็หน้าด้านขอแปล เพราะนอกจากจะน่าสนแล้ว มัน 3 เล่มจบด้วยนี่ล่ะครับ (ไม่ชอบภาระผูกพัน)

พอได้แปล เลยเอาฉบับอนิเมะมาดู เออ เรื่องมันทำออกมาได้เยี่ยมากเลยครับ เล่นกับเรื่องโลกของเทคโนโลยี กับโลกอนาลอกของญี่ปุ่นบ้านนอกได้ดีจริงๆ แถมธีมยังเป็นเรื่องหน้าร้อนของวัยรุ่น อะไรมันจะน่าสนใจได้ไปกว่านี้ล่ะครับ (เฮ้อ อยากกลับไปเรียน ม.ปลาย)

แมวที่ร้านกาแฟ

ดื้อมาก โดนไปหลายรอย

Saturday, September 10, 2011

Official Blogger app for iPhone

やっと直接携帯からブログができます。待たせるが長すぎたぞ、Blogger。でも専用のアプリがあって本当に便利ですな。

Finally, I can blog straight from my phone. It's been a while waiting for the official Blogger app for iPhone and it is much easier now.

Sunday, September 4, 2011

New Blood สายเลือดใหม่

แป๊บๆ ก็เข้าเดือนกันยายน ไตรมาสสุดท้ายของปีแล้วนะครับ ไวเป็นบ้า ผมยังไม่ชินกับปี 2554 เลย นี่จะเปลี่ยนล่ะ ก่อนที่จะสิ้นปี ผมเองก็ต้องเริ่มไล่เรียงเตรียมอันดับอัลบั้มยอดเยี่ยมของปี ระหว่างนั้นก็เจอศิลปินเลือดใหม่ที่ออกผลงานที่น่าประทับใจออกมา ก็ต้องขอนำมาเสนอกันบ้างล่ะครับ

Jonathan Jeremiah

ชายหนุ่มจากลอนดอนเหนือ ที่แปลกแยกกว่าคนอื่น แทนที่เขาจะสนใจเพลงอินดี้ร๊อคแบบเด็กรุ่นเดียวกัน เขากลับหลงไหลไปกับเพลงโฟลค์อังกฤษ การเรียบเรียงเครื่องสาย และเสียงร้องที่นิ่มนวล เขาโตมากับกองแผ่นเสียงของพ่อที่เต็มไปด้วย Scott Walker, Cat Stevens และ Serge Gainsbourg และเริ่มเล่นกีตาร์เมื่ออายุเพียง 6 ขวบเท่านั้น

Jonathan Jeremiah 3_2011 - CMS Source

เมื่ออายุได้ 21 ปี เขาเดินทางไปอเมริกาเพื่อหาประสบการณ์ แทนที่จะได้พบกับแนวดนตรีโฟลค์อเมริกันที่เขาคาดหวัง เขากลับพบกับความหงอยเหงาเพราะหาคนที่สนใจแนวดนตรีเดียวกันไม่เจอ แต่มันก็ได้เสริมสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับเขาเพื่อพัฒนาการแต่งเพลงต่อไป เมื่อเขากลับมาอังกฤษ ก็ได้พบกับกลุ่มนักดนตรีออเคสตรารุ่นใหม่ ทำให้เขาได้ทีมงานมาช่วยเหลือในอัลบั้มที่เขาโปรดิวซ์เอง เนื่องจากต้องการเสียงจากเครื่องดนตรีจริงๆ โดยเขาต้องทำงานเป็นรปภ.เพื่อหางานมาจ่ายค่าตัวของนักดนตรี เมื่อเสียงออเคสตราที่แสนบรรจง บวกเข้ากับเสียงกีตาร์ที่เป็นเหมือนอวัยวะอีกชิ้นของเขา และเสียงบาริโทนนุ่มๆ ทำให้กลายเป็นส่วนผสมทางดนตรีที่ลงตัวที่สุดอีกชิ้นหนึ่ง และเป็นเพขรที่รอคอยการถูกค้นพบอยู่ครับ

และเมื่อคุณหยิบ A Solitary Man ผลงานชิ้นแรกของเขามาฟัง คุณจะเข้าใจความทุ่มเทที่เขาใส่ลงไปในงานชิ้นนี้ครับ แม้บางคนจะมองมันว่าเป็นแค่งานเพลงฟังสบายๆ ไม่หวือหวา แต่มันเต็มไปด้วยความบรรจงในการแต่งแต้มสีสันของเพลงเป็นอย่างดี แต่ละเพลงร้อยเรียงได้อย่างลงตัวไร้รอยต่อจริงๆ ทำให้เราสัมผัสได้ถึงความตั้งใจในการประสานเครื่องดนตรีทั้งหมดเข้าด้วยกัน เพลงอย่าง That Same Old Line เป็นตัวอย่างที่ดีมากในการเล่าเรื่องราวผ่านเพลง ส่วน Heart of Stone ก็เป็นเพลงร๊อคย้อนยุคแบบที่ฟังดูแล้วไม่เชยเลย เหมาะแก่การหยิบไปฟังเวลาขับรถทางไกลมาก Lost เป็นเพลงโปรดอีกเพลงหนึ่งของผม ที่เล่นกับเนื้อเพลงง่ายๆออกมาได้อย่างดี Happiness ก็เป็นอีกเพลงที่เรียบเรียงออกมาได้ลงตัวมาก เช่นเดียวกับ See ที่เครื่องสายบาดลงไปถึงหัวใจเราเลยทีเดียว

แม้คุณจะมีความสุขกับการฟังเพลงสุดเท่ทั้งหลาย แต่ในบางเวลา เมื่อคุณเหน็ดเหนื่อยกับสิ่งต่างๆ งานเพลงของ Jonathan Jeremiah คือสิ่งที่จะเยียวยาคุณจากความเหน็ดเหนื่อยเหล่านั้นได้ครับ

 

James Blake

อีกหนึ่งหนุ่มลอนดอนที่โดดเด่นเอามากๆในช่วงปีที่ผ่านมาก James Blake จบการศึกษาจาก Goldsmiths, University of London โดยมีเพื่อนร่วมชั้นชื่อดังอีกคนอย่าง Katy B และเขาก็ใช้เวลาระหว่าเรียนในการอัดผลงานเพลงของตัวเองมาเสมอ และเริ่มออกงานเพลงชิ้นแรก Air & Lack Thereof ในปี 2009 และมันก็ไปเข้าตาดีเจชื่อดังอย่าง Gilles Peterson จนได้รับเชิญไปมิกซ์เพลง หลังจากนั้น เขาก็ได้ออก EP ชื่อ CMYK ซึ่งก็กลายเป็นที่จับตามองอีก

James_Blake_-09473

แต่เพลงที่ส่งเขาเข้าไปอยู่ในสปอตไลต์ของวงการเพลงจริงๆคือ Limit to Your Love ที่เป็นเพลงช้าๆ เนิบๆ แต่เล่นกับช่องว่างของเสียงได้เป็นอย่างดี และยังไล่อารมณ์เพลงได้ยอดเยี่ยมจนขนลุกเลยทีเดียว และนั่นทำให้เขาได้รับการจับตามอง จนถึงกับถูกรวมใน The Sound of 2011 ที่จัดโดย BBC เลยทีเดียว

เขาใช้เวลาตลอดปี2010 เพื่ออัดงานเพลงชุดแรกของเขา และกลายมาเป็นงานอัลบั้มเต็มที่ใช้ชื่อเดียวกับเขาเลย และมันก็กลายเป็นงานที่โดดเด่นเอามากๆอีกชิ้นหนึ่งในปีนี้ ด้วยความที่มันสามารถใช้ช่องว่างระหว่างเสียงและจังหวะสร้างบรรยากาศแบบเฉพาะตัวได้อย่างงดงามเกินบรรยาย เพลงที่โดดเด่นมากๆก็อย่างซิงเกิ้ล The Wilhelm Scream ที่งดงามเกินบรรยาย ให้ความรู้สึกเหมือนการล่องลอยอยู่ระหว่างความฝันและความจริงโดยที่ไม่รู้แน่ชัดว่าเรากำลังอยู่ส่วนไหนกันแน่ ราวกับหลุดเข้าไปอยู่นภาพวาดเซอเรียลิสม์ชั้นครู และเป็นตัวแทนของอัลบั้มนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะทั้งอัลบั้ม มันเล่นกับจังหวะและช่องว่างได้อย่างเหนือชั้นจริงๆครับ เป็นตัวอย่างของการสร้างบรรยากาศของเพลงที่ดึงดูดเราเข้าไปสู่โลกของศิลปินได้อย่างยอดเยี่ยมเหลือเกิน

ไม่แปลกอะไรที่ความยอดเยี่ยมและโดดเด่นของมันจะพาให้เขาได้เข้าร่วมชิงรางวัล Mercury Prize รางวัลเด่นของคนดนตรีในอังกฤษในปีนี้ และอีกโปรเจ็คต์ที่น่าสนใจเอามากๆคือ เขากำลังร่วมทำงานเพลงกับ Justin Vernon แห่ง Bon Iver ศิลปินที่ถนัดในการสร้างบรรยากาศของเพลงอีกคน น่าสนจริงๆครับว่างานของพวกเขาจะออกมาในแนวไหนกัน

Thursday, September 1, 2011

ความเป็นกลางของสื่อมวลชน

Technorati Tags: ,,
กระแสเรื่องราวต่างๆที่เกิดในวงการสื่อตอนนี้ โดยเฉพาะกับมติชน ทำให้เกิดกระแสเรียกร้องหา ความเป็นกลาง ของ สื่อมวลชน ออกมาให้ได้ยิน
ส่วนตัว ผมบอกตรงๆครับว่า จะบ้าเหรอ ตราบใดที่เป็นคน มันไม่มีทางเป็นกลางได้หรอกครับ แล้วต่อให้เป็นกลางจริงๆ ก็ยังต้องมีคนด่าอยู่เหมือนเดิมนั่นล่ะ ดูพระพุทธจ้าสิ ตลอดชีวิตท่านยังมีมารผจญออกมากระแนะกระแหนอยู่เรื่อยๆไม่ใช่เหรอ
13144622511314462715l
ตราบใดที่สื่อมวลชน ยังเป็นคนอยู่ มันจะเป็นกลางได้ยังไงล่ะครับ ขึ้นชื่อว่าเป็นคน เวลาเขียน เวลาทำอะไร มันก็ต้องมีความคิดความอ่านของตัวเองเข้าไปอยู่แล้วล่ะครับ ถ้าจะเป็นกลางจริงๆ ก็รายงานมันทื่อๆ ใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร เท่านั้น แล้วแมวที่ไหนมันจะรับสื่อน่าเบื่อย่างนั้นล่ะครับ

มื้อนี้ที่ไม่ลืมเลือน

Technorati Tags: ,

ชีวิตนี้ คุณเคยกินอาหารแล้วประทับใจแบบสุดๆ จนแทบจะขึ้นสวรรค์ น้ำหูน้ำตาไหลพรากๆแบบในการ์ตูนญี่ปุ่นบ้างมั้ยครับ ผมว่า ถ้าเป็นคนทีชอบกิน ไม่ว่าใครก็คงเคยล่ะครับ ยกเว้นแต่จะเป็นคนลิ้นด้าน ไม่ได้สนใจเรื่องรสชาติอาหาร หรือเป็นคนที่ขาดความสุนทรีย์เป็นอย่างยิ่งครับ

ตัวผมเอง ก็พิศมั ยการกินมาโดยตลอด แม้ตอนเด็กๆจะเรื่องมาก ไม่กินนู่นกินนี่ แต่พอโตมา ก็กลายเป็นพวกชอบหาของอร่อยๆกิน โดยไม่ยอมพลาดโอกาสดีๆแม้แต่น้อยครับ และในชีวิตที่ผ่านมา ก็หากินนู่นกินนี่ เจอที่อร่อยๆมาก็ไม่น้อย แต่เอาเขาจริงๆ การเจออาหารที่อร่อยแบบเทพๆ กระทั่งชวนน้ำหูน้ำตาไหลนี่ มันมีเงื่อนไขเยอะเหมือนกันนะครับ ไม่ใช่แค่ตัวอาหารอย่างเดียวครับ มันยังมีเรื่องของจังหวะเวลา สถานที่ คนที่ทานด้วย สารพัดอย่างมารวมกันครับ