Wednesday, January 27, 2010

Green Day Live in Bangkok: สดสะใจ

Technorati Tags: ,

ผมคงต้องขอคั่นการจัดอันดับอัลบั้มยอดเยี่ยมของผมเอาไว้ก่อน เนื่องจากอยากจะรีบเอาบรรยากาศการแสดงสดของวงกรีนเดย์ในเมืองไทยมาเล่าสู่กันฟังเป็นอย่างยิ่งครับ เพราะว่ามันทั้งสนุกทั้งยิ่งใหญ่จริงๆครับ และเป็นการชดเชยอดีตที่ผมไม่ได้มาดูกรีนเดย์ตอนที่มากรุงเทพครั้งแรกอีกด้วยครับ

โดยส่วนตัวผมค่อนข้างจะตื่นเต้นกับงานนี้มาก เพราะนอกจากเป็นวงที่อยากดูเอามากๆแล้ว ทาง BEC TERO ยังอุตส่าห์ใจดี ให้ตั๋วแถวหน้าเลยทีเดียว และที่สำคัญคือ ผมได้ยินมานานแล้วว่าพวกเขาเป็นวงที่เล่นเอนเตอร์เทนคนดูได้อย่างยอดเยี่ยมจริง แบบนี้ใครจะทนไหวล่ะครับ ยิ่งได้ไปงานแถลงข่าวเจอสมาชิกวงแบบหายใจรดต้นคอแล้วผมยิ่งตื่นเต้นเกินห้ามใจ

DSC_0619 ในวันงาน ผมพยายามรีบไปเต็มที่เพื่อจะได้สัมผัสบรรยากาศ ก็มีวงดนตรีไทยเล่นวอร์มอัพคนดูอยู่ด้านนอก สงสัยเป็นเพราะว่าครั้งที่แล้วมีการปาร้องเท้าใส่วงไทย เลยเอาวงไทยมาเล่นด้านนอกแทน พอชาร์จแบตเรียบร้อย ก็เข้าไปดูวงเปิดที่ชื่อ Prima Donna ก่อน ผมรู้จักเกี่ยวกับวงนี้น้อยมาก แต่ก็อยากดูไว้ก่อน พอเข้าไปดู ทำให้ผมนึกถึงวง Glitterati ขึ้นมาทันที เพราะแม้แนวเพลงจะไม่เหมือนกันมากนัก แต่พวกเขาเน้นที่ความโฉบเฉี่ยว เอาใจสาวๆเหมือนกัน ยิ่งตอนที่นักร้องนำถอดเสื้ออก สาวๆกรี้ดไปหลายคนครับ พวกเขามีชื่อในยุโรป แต่แนวนี้ คงจะลำบากสำหรับอเมริกาบ้านเกิดอยู่ DSC00365 พอวงเปิดเล่นจบ คนดูก็เรียกร้องกรีนเดย์ทันที ระหว่างฟังเพลงคั่นรอ ก็มีกระต่ายขี้เมา เดินถือเบียร์มาสองขวด และเริ่มออกลีลาเต้นกวนประสาท ก่อนจะยกเบียร์รวดเดียวหมดขวดโชว์พวกเราตามด้วยเสียงเฮ ก่อนจะไปเต้นตามเพลง YMCA เรียกได้ว่าหลุดได้ที่ แต่มันฮาโคตรๆ จนสงสัยว่าเป็นหนึ่งในทีมงานของ Green Day รึเปล่า

b000

และในที่สุด Green Day ก็ขึ้นเวทีมา โดยมีอินโทรคล้ายกับในอัลบั้ม ก่อนที่จะอัดด้วยเพลงโคตรดังในบ้านเราอย่าง Know Your Enemy เท่านั้แหละครับ คนดูก็เฮกันเหมือนคนบ้ากันไปหมด ก็มันสะใจกันขนาดนั้น ตามมาด้วยเพลงดังๆในช่วงหลังของพวกเขาหลายๆเพลงอย่าง East Jesus Nowhere หรือ BLVD of Broken Dreams และพวกเขาก็พาแฟนเพลงขึ้นไปร่วมแจมบนเวทีอย่างเมามัน รวมไปถึงการดึงผู้หญิง (มือเบสวง Over Me ที่เล่นอยู่ข้างนอก) มาเป็นเหยื่อสังเวย พร้อมทั้งพลุระเบิดอย่างเมามัน พวกเขาเล่น Pyrotechnic ได้อย่างสะใจ จนเล่นเอาผมกลัวว่า จะเป็นซานติก้ารึเปล่า แต่ดูเหมือนทีมงานจะโปรดีมากครับ ทั้งพลุ ทั้งไฟ ใส่กันแบบไม่ยั้งb005

พอจบช่วงแรก พวกเขาก็ออกไปพัก ก่อนจะเปลี่ยนฉากหลังเป็นโลโก้วงยุคเก่า หมายความว่าพวกเขาจะเอาเพลงเก่าๆมาเล่นแล้ว ละมันก็มาเป็นระลอกให้คนรุ่นผมสนุกจริงๆ ไม่ว่าจะเป็น Basket Case, Longview, Jade, Hitchin a Ride และที่ขาดไม่ได้คือเพลงบังคับ When I Come Around ที่เล่นเอาคนดูเฮกันทั้งฮอลล์

b008

นอกจากจะชวนคนดูขึ้นไปบนเวที พวกเขายังมีสารพักกิมมิคอย่างเช่นเอาเครื่องยิงเสื้อเชิ้ตมายิงแจกเสื้อเชิ้ตให้คนดู ให้คนดูตะโกนแข่งกัน ฉายไปส่องเล่นกับคนดู เอาเค้กมาฉลองวันเกิดให้กับมือกีตาร์เสริม และให้คนดูร้องเพลง HBD ตาม พวกเขาเอนเตอร์เทนได้เก่งจริงๆครับ

พอช่วงต่อมา พวกเขาก็แต่งตัวออกมาแบบฮาๆ เล่นเพลง King for a Day แล้วบิลลี่เองก็ทำท่าระบำโป๊แบบฮาๆ เล่นกันไปแบบยาว ๆ พอขี้เกียจ ก็ลงไปนอนให้คนดูช่วยร้องตาม กระทั้งเอาเพลงอย่าง I can get no satisfaction หรือ Hey Jude มาร้องเล่นบนเวทีอีกด้วย ก่อนจะกลับมามันอีกครั้ง แล้วก็มาได้ซึ้งกับเพลง 21 Guns อีกครั้ง ก่อนที่จะจบด้วยการเครื่องยิงกระดาษตู้มออกมาเต็มหน้าเวทีอย่างน่าซึ้งใจ ที่สำคัญขนาดกระดาษเล็กๆยังมีโลโก้วงเลยครับ ซึ่งพวกเขาก็ปิดอย่างงดงามด้วย American Eulogy ให้คนดูตะโกนเรียกอังคอร์

b011 พวกเราไม่ต้องรอนาน พวกเขาก็ออกมาอีกครั้ง เพื่อเล่นเพลงอย่าง American Idiot ให้เราได้สะใจ ก่อนจะปิดอีกครั้งด้วยเพลงดัง Minority ให้พวกเราได้ตะโกนร้องตามอีกครั้ง ผมเองก็ลุ้นอยู่ว่าพวกเขาจะออกมาอีกมั้ย และพวกบิลลี่ก็กลับมากับกีตาร์โปร่ง เพื่อมาเล่นเพลง Wake Me Up When September Ends ให้เราได้ซึ้งจนน้ำตาคลอ และปิดท้ายจริงๆด้วยเพลง Time of Your Life ที่ทำให้ผมได้คิดว่า คอนเสิร์ตครั้งนี้แหละ คือ Time of My Life จริงๆ ส่งท้ายได้อย่างงดงามเหลือเกินครับ

ต้องยอมรับจริงๆว่างานนี้สิงห์กับ BEC TERO จัดงานได้ดีจริงๆ และผมว่าประสบความสำเร็จเอามากๆ เพราะคนดูเพียบเลยครับ และก็เป็นคอนเสิร์ตที่น่าประทับใจจริงๆ หวังว่าปีนี้เราจะมีคอนเสิร์ตดีๆให้ดูกันอีกนะครับ

Best 30 Albums of 2009 ตอนที่ 1

Technorati Tags: ,

หลังจากปีใหม่ผ่านไป ก็ได้เวลาที่ผมจะต้องจัดอันดับอัลบั้มยอดเยี่ยมของปีที่ผ่านมาตามปกติ ซึ่งผมจะต่างจากคนอื่นตรงที่รอข้ามปีก่อนค่อยจัด เพราะอยากจะดูจนหยดสุดท้ายจริงๆ และต้องขอออกตัวก่อนว่า ผมจัดอันดับเองคนเดียว ใช้ความเห็นตัวเองเป็นหลัก ทำให้อาจจะมีหลายอัลบั้มตกหล่น ทำให้ท่านไม่ชอบใจ ก็เป็นเพราะ ผมไม่ได้ฟังทั้งหมด และก็เป็นคนมีรักและชัง พอตัดสินคนเดียว ก็เป็นแบบนี้แหละครับ ลองดูแล้วกันว่าถูกใจกันหรือไม่

 

30. Jamie T – Kings & Queens การกลับมาของไอ้หนุ่มตัวแสบจากอังกฤษที่ขยำเพลงหลากแนว และร้องเกี่ยวกับชีวิตวัยรุ่นในอังกฤษได้อย่างน่าสนใจ ครั้งนี้ เขาก็ยังทำในสิ่งที่ถนัดเหมือนเดิม แต่ว่าวิสัยทัศน์ของเขามันกว้างไกลยิ่งกว่าชุดที่แล้ว ทำให้ได้งานที่เข้มข้นและสนุกสนานจริงๆ ลองฟัง Hocus Pocus และ Sticks N’ Stones

jamie_t_album_artwork

29. Anthony and the Johnsons – The Crying Light ผลงานของเจ้าของรางวัล Mercury ที่กลับมาหลังจากหันไปทำเพลงแดนซ์ และการกลับมาครั้งนี้ เขาก็ยังทำให้พวกเราได้รู้ว่า การเขียนเพลงทำให้คนขนลุกได้นั้นเป็นอย่างไร พลังเสียงของเขานั้นยังยอดเยี่ยมไม่เปลี่ยนแปลง ลองฟัง Kiss My Name แล้วจะรู้ว่ามันยอดเยี่ยมแค่ไหน

antony_crying_light

28. Sonic Youth – The Eternal อัลบั้มชุดที่ 15 ของวงดนตรีระดับเทพวงนี้ที่ย้ายมาอยู่กับ Matador งานชุดนี้พวกเขาอุทิศให้กับ Ron Asheton แห่งวง The Stooges ที่พึ่งจากไป แล้วมันก็เป็นงานที่กลับสู่รากความดิบของเพลง Punk ได้อย่างงดงาม พวกเขากลับสู่ความเรียบง่ายที่ทำให้นึกไปถึงงานเก่าๆของพวกเขา และแสดงให้เห็นว่า Kim Deal สามารถเป็นนักร้องที่ยอดเยี่ยมจริง กลับมาอย่างงดงามครับ ลองฟัง Massage The History

ole-829-the-eternal

27. Kid Harpoon – Once อัลบั้มแรกของหนุ่มอังกฤษมากความสามารถที่ฟังสบายได้ในวันที่อากาศดีๆ งานอินดี้ป๊อปผสมกลิ่นของโฟล์ค นิวเวฟ และดิสโก้แบบนี้ ทำให้เราอยากขับรถออกไปรับลงจริงๆ ลองฟัง Burn Down House และ Stealing Cars ดูสิครับ

1258666378_foldertp

26. Arctic Monkeys – Humbug การกลับมาของสี่เด็กแสบจาก Sheffield ที่ครั้งนี้พวกเขาทำให้เรารู้ว่าพวกเขาเติบโตขึ้นอีกแล้ว แม้ว่าเพลงจะไม่โจ๊ะเท่าเก่า แต่ว่ามันถูกเติมเต็มด้วยความนุ่มลึก และความมืดหม่น และความสามารถในการสังเกตของพวกเขาก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง อยากให้ฟัง Cornerstone จริงๆครับ (ดูด้วยก็ได้)

2009humbug

25. Animal Collective – Merriweather Post Pavillion อีกหนึ่งงานวงร๊อคทดลองที่น่าสนใจมากๆของปีที่ผ่านมา วงจากนิวยอร์กวงนี้ผสมผสานดนตรีหลากแนวเข้าด้วยกัน จนได้อัลบั้มที่เข้มข้น และสร้างความสุขให้เราทุกครั้งที่ได้ฟัง แค่มองภาพแกชวนหลอนก็รู้แล้วว่า ภายในอัลบั้มมันก็คงไม่ธรรมดาแน่ๆ

146724-merriweather_0

24. Julian Casablancas – Phrazes for the Young งานเดี่ยวของเจ้าของเสียงทรงเสน่ห์จาก The Strokes ที่เงียบไปนาน มันแสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของเขาใน The Strokes รวมไปถึงทีเด็ดที่เขาไม่ได้ใช้กับวงตัวเองอีกด้วย แม้เพลงอย่าง Out of the Blue จะเหมือนเอาไว้ฟังฆ่าเวลารองานของวง แต่ 11th Dimesion ก็คือการเผยรสนิยมเพลงป๊อปของเขานั่นเอง

Phrazes-for-the-Young-casablancas-cover

23. Fuck Buttons – Tarot Spot งานเพลงจากวงที่มีชื่อชวนให้คนศีลธรรมสูงรำคาญวงนี้ทำให้เราสับสนเล็กน้อย เพราะจากชื่อมันน่าจะเป็นเพลงพังค์ป่วนเมือง (Fucked Up) แต่มันกลับเป็นเพลงอีเล็กโทรนิกส์สุดหลอนที่พาเราไปทำความรู้จักกับจิตใต้สำนึกของตัวเอง เสียบหูฟังแล้วเปิดมันดูสิครับ มันเหมือนกับกระแสคลื่นของดนตรีที่ซัดสาดใส่เราจริงๆ

tarot sport

22. La Roux – La Roux งานชิ้นแรกของคู่หูดูโอเพลงป๊อปจากอังกฤษ ที่ทำให้เรารู้ว่า ยุค ’80 มันเต็มไปด้วยเพลงป๊อปดีๆจริงๆ พวกเขาสรรเสิญเพลงป๊อปอย่างไม่อายใคร มันคือการจับคู่กันอย่างลงตัวของจังหวะที่สุดฉลาด กับเสียงร้องที่ติดหู ใครได้ฟังอัลบั้มชุดนี้แล้วบอกว่าไม่รู้สึกอะไร คงจะตายด้านทางอารมณ์ไปแล้ว เพลงโปรดของผมคือ Quicksand และ In for the Kill

21. The Big Pink – The Brief History of Love งานอีเล็กโทรนิกส์ผสมร๊อคของวงหน้าใหม่จากค่าย 4AD ที่ผสมผสานออกมาได้เป็นอย่างดีและเต็มไปด้วยความทะเยอทะยานบนดนตรีที่โครมครามเอาเรื่อง มันเหมือนการเอาเพลงอินดี้ยุค 90 มาอัพเกรดให้เข้ากับยุคสมัย ลองฟังเพลง Dominos แล้วจะรู้เองครับว่าพวกเขายอดเยี่ยมยังไง

Big_Pink

20. Richard Hawley – Truelove’s Gutter งานเพลงเดี่ยวชุดที่ 6 ของพี่ใหญ่จาก Sheffield คนนี้ที่มันยังเป็นความงดงามแบบไร้ที่ติเช่นเคย เขาสามารถแต่เพลงเกี่ยวกับตัวเองโดยไม่ฟังดูเหมือนไอ้คนหลงตัวเอง และยังมีเพลงที่ปลอบประโลมคนทั่วไปอีกด้วย สิ่งที่เขาทำไม่ใช่การทำเพลลงตามกระแส แต่เป็นการสร้างความคลาสสิคต่างหาก ลองฟัง For Your Lover Give Some Time

Richard-Hawley-Trueloves-Gutter-483869

19. MSTRKRFT – Fist of God งานของ Jesse F Keeler จากอดีต DFA1979 ที่เป็นงานเต้นรำของหุ่นยนต์ที่ยอดเยี่ยมไม่เสียชื่อวงเก่า มันคือการสร้างเพลงพังค์ผ่านเพลงเต้นรำที่แท้จริง แทบทุกเพลงอัดกระหน่ำใส่เราอย่างไม่เกรงกลัว เหมือนกับเพลง Robot Rock ที่อัดกระทิงแดงเข้าไปเกินสองขวด แนะนำ 1,000 Cigarettes และ Bounce

mstrkrftfistofgodalbumart