Monday, November 19, 2012

The Datsuns ฮาร์ดร๊อคยังไม่ตาย

Technorati Tags: ,

เผลอแป๊บเดียว ก็จะหมดปี 2012 แล้ว เวลามันผ่านไปเร็วนะครับ นึกอีกที นี่ก็ครบสิบปีที่ผมเริ่มไปเรียนที่ญี่ปุ่นล่ะ และบอกตรงๆว่าดีใจมากที่ไปเรียนที่ญี่ปุ่นในช่วงนั้น เพราะเป็นช่วงที่วงการดนตรีเบ่งบานและน่าตื่นตาตื่นใจจริงๆ ตั้งแต่การจุติของ The Strokes การกลับมาของวงการาจพังค์ ซึ่งมีวงเท่ๆแห่กันมาเต็มไปหมด โดยเฉพาะวง The สารพัดสารพัน ทำให้ได้เสพดนตรีจากสองฟากฝั่งแอตแลนติคอย่างเพลิดเพลิน โดยเฉพาะคอนเสิร์ต ที่ได้วนไปตามไลฟ์เฮาส์เล็กๆเพื่อดูวงที่มาแรงเป็นประจำ และหนึ่งในวงที่ได้ดูแล้วประทับใจไม่เสื่อมคลายคือ The Datsuns วงฮาร์ดร๊อคจากนิวซีแลนด์นั่นเอง

The_Datsuns_M310994_credit_Rickard_Eriksson

The Datsuns เริ่มตั้งต้นในปี 1995 โดยสมาชิกสามคนแรกคือ Rudolf de Borst (รูดอล์ฟ หรือ ดอล์ฟ ร้องนำ เบส) Phil Somervell (กีตาร์) และ Matt Osment (แมท กลอง) ในชื่อวง Trinket ในเมืองเคมบริดจ์ นิวซีแลนด์ ก่อนจะได้ Chris Livingstone (คริส กีตาร์) มาร่วมวงต่อมา ซึ่งพวกเขาก็ชนะการประกวดวงดนตรีท้องถิ่น ก่อนจะเปลี่ยนชื่อวงเป็น The Datsuns จากยี่ห้อรถยนต์ที่เลิกกิจการไปแล้ว (หลายคนคงเกิดทันนะ) และพวกเขาก็ยืนหยัดเล่นเพลงฮาร์ดร๊อคคลาสสิกแบบที่ผสมระหว่างเสียงร้องแหลมสูงจังหวะที่เร็วกระชาก ริฟฟ์กีตาร์แน่นๆ และลีดกีตาร์สวยๆ ซึ่งเป็นแนวเพลงที่ถูกยุคปลาย ’90 หมางเมินเอาได้ง่ายๆ (ก็คนมัวแต่เห่อnu-metal) แต่พวกเขาก็ไม่สนใจ และยึดมั่นกับแนวทางที่พวกเขาชื่นชอบ

Saturday, November 10, 2012

Wolf Children กับโรงหนังที่กำลังจะกลายเป็นอดีต

ในที่สุดผมก็ได้มีวันหยุดแบบสองวันติดเสียที หลังจากวุ่นกับเรื่องงานมาหลายเสาร์อาทิตย์ และปรากฏว่า จังหวะเหมาะกับที่อนิเมะเรื่องที่อยากดู เข้าฉายในเมืองไทยพอดี เลยพยายามขนขวาย ดั้นด้นไปถึงสยาม ที่ปกติไม่ค่อยได้ไปเท่าไหร่นัก เพื่อที่จะไปดูหนังเรื่องนี้ที่โรงหนังลิโด้โดยเฉพาะเลยทีเดียว
c7f2ba98
อนิเมะ (ผมเลือกใช้คำนี้ แยกไปจากการ์ตูน และอนิเมชั่น) เรื่องที่ว่าคือ Wolf Children คู่จี้ด ชีวิตมหัศจรรย์ หรือชื่อญี่ปุ่นคือ OOKAMI KODOMO NO AME TO YUKI ที่พึ่งเข้าฉายไปที่ญี่ปุ่นเมื่อกลางปีที่ผ่านมานั่นเอง ซึ่งเป็นงานอนิเมะที่ผมค่อนข้างจะคาดหวังไว้เยอะ เพราะทีมผู้กำกับ และผู้ออกแบบตัวละครคือทีมเดียวกับที่ทำเรื่อง Summer Wars อนิเมะชื่อดังเมื่อไม่กี่ปีมานี่เอง (และผมเป็นคนแปลฉบับมังงะด้วยครับ) เมื่อพวกเขากลับมา และทาง M Pictures เอามาฉายในโรง ก็ไม่ควรพลาดครับ เพราะการดูหนังในโรงมันได้บรรยากาศกว่าการดูที่บ้านเยอะ (แต่ต้องทนกับคนไร้มารยาททั้ง โทรศัพท์ คุยกัน เตะเบาะ สารพัดหน่อยนะ)