20:12 น. ของวันที่ 11 สิงหาคม คืนก่อนวันแม่ (ถ้าเป็นฝรั่งต้องเรียกว่า Mother Day Eve) ผมเร่งรถ โตโยต้า แคมรี่มังกรขาวคู่กายไปตามถนนเพชรบุรีหลังเลิกงาน เพื่อให้ทันงานคอนเสิร์ตระดับโลกที่เริ่มต้นตั้งแต่ 19:00 น. แน่นอนว่าผมเลทไปเรียบร้อย แต่อย่างน้อย ด้วยความยาวของคอนเสิร์ต ทำให้ผมไม่ยอมถอดใจ เพราะว่ามันคืองาน Heineken Green Space One World Party นั่นเอง (ครั้งนี้เกี่ยวกับ อบายมุข กรุณาอ่านหลังสี่ทุ่ม เดี๋ยวคนเขียนจะโดนกระทรวงไดโนเสาร์โวย)
ตั้งแต่ได้ข่าวงานนี้ ผมก็สนใจเอาเรื่อง เพราะเห็นทาง Heineken ตั้งใจจัดงานแนวนี้มาตลอด โดยมี เจ มณฑล ดีเจ ไฟแรงของบ้านเราเป็นหัวหอก แต่ผมไม่เคยมีโอกาสไปร่วมงานซักที (ครั้งที่จะได้ไป ก็เลือกไปดู Ken Ishii มาเปิดแผ่นแทน) แต่งานนี้ เนื่องจากมันใหญ่ขนาดบักเอ้บจริงๆ (ถามความหมายเพื่อนอีสานเอา) เลยพยายามหาตัว แต่ก็ไม่ได้ซะที จนจะวันงาน เกิดทางสว่างเมื่อเพื่อนที่ไทยโพสต์บอกว่าพีอาร์ของ Phillip Morris ให้ตั๋ว VIP มา ก็เลยสมใจ แต่ก็ต้องรีบบึ่งแบบนี้แหละครับ
ที่บอกว่างานมันใหญ่มากเพราะนอกจากวงไทยจะขึ้นเล่นหลายวงแล้ว ยังมี Super Group ไทย ชนต่างชาติให้สนุกกันด้วย แถมวง Tahiti 80 จากฝรั่งเศส และ Brand New Heavies วงระดับตำนานจากอังกฤษ ก็มาร่วมงานด้วย เลยพลาดไม่ได้แน่นอนครับ
พอไปถึงงานที่ Central World เมื่อลิฟท์เปิดออก ก็เจอคนเพียบเลยครับ เลยสงสัยว่างานมันเริ่มแล้วจริงๆเหรอ พอถามเพื่อน มันก็บอกว่าเริ่มแล้ว แต่คนก็ออกมาหาเบียร์กิน ดูดบุหรี่ คุยกันไปเรื่อย เลยทำให้ผมสงสัยหลายๆคนว่า มันมาฟังเพลง หรือมาทำตัว แนวๆ ตามแบบ Hipster กันแน่ แต่ก็ช่างศีรษะเขาไป เพราะตอนที่ผมเข้าไป ก็ได้ยินเสียเพลง Black Or White ของ Michael Jackson กระหึ่มออกมาแล้ว พอเข้าไป ก็เจอ เบน ชลาธิศ ร้องนำให้กับ Super Group ของเมืองนอกอยู่ ซึ่งเท่าที่ทราบมาก็เป็นนักดนตรีเซสชั่นจากหลายๆที่มาแจมกัน แต่ละคนก็ฝีมือไม่ธรรมดาเลยครับ ฟังแล้วเพลินมาก แต่จริงๆน่าจะให้นักร้องเจ้าของภาษามาร้องน่าจะดีกว่า วงเล่นอีกเพลงของ Queen แล้วก็ลาจากแฟนครับ หลังจากนั้นก็เป็นช่วงเบรกแสนยาวนาน เลยรับเบียร์ฟรี และไปยืนอัดบุหรี่ฟรีหน่อย ของฟรี ปฏิเสธไม่ลงครับ PR ของค่าย Phillip Morris รู้ใจจริงๆ
ผมขอออกตัวไว้ก่อนว่า เป็นคนที่ไม่ได้ตามเพลงไทย และไม่ฟังวิทยุ เลยไม่ค่อยรู้จักวงการนี้เท่าไหร่นัก ข้อมูลเลยไม่แน่น ต้องขอโทษด้วยครับ จะว่ากระแดะก็ได้ครับ
จากนั้น ก็เป็นคิวของ Super Group ไทย ที่มีสมาชิกอย่าง Squeeze Animal สมเกียรติ Z-Mix มาแจมกัน โดยเพลงแรกได้ นุ้ย จาก Peach Band มาร้อง ซึ่งทำให้ผม แฮปปี้มาก เพราะหลงรักเสียงเค้ามานานแล้วครับ ตามมาด้วย Stamp และ คัตโตะจากลิปตา และที่เซอไพรส์สุดคือ จากนั้น พี่น้อยวงพรูก็ออกมาร้องและเต้นเพลง Billie Jean อย่างเมามัน ถึงขนาดจากลีลาไมเคิล ไปๆมาๆ กลายเป็นหนุมานไปซะ น่าจะเรียก เสก โลโซมาแจมเลยดีกว่า สุดท้ายก็เป็นเบน ชลาธิศอีกครั้ง ตามด้วย บี้ พีระพัฒน์ ครับ ก่อนจะเบรกยาวๆ ให้คนไปหาเบียร์มากระแทกปากอีก
หลังจากเบรก ก็เป็นคิวของ Tahiti 80 วงพ๊อพฟังค์ ฟังสบายจากฝรั่งเศสที่โด่งดังในบ้านเราจากเพลง Hearbeat ที่ขึ้นมาก็เล่นได้อย่างเมามัน สะใจจริงครับ ผมว่าความมันไม่ต่างจาก Maroon 5 เมื่อปีที่แล้วเลย สนุก สะใจจริงๆครับ พวกเขาขนเพลงดังๆมาเล่นทั้งหมด 8 เพลง โดยที่เพลงสุดท้ายได้ วง Tattoo Color วงดังจากขอนแก่นบ้านเดียวกันมาแจมอย่างสะใจอีกเพลงครับ
และ Tattoo Color ก็ขึ้นเล่นต่อทันที จัดว่าเป็นมวยลำบาก เพราะเล่นต่อวงใหญ่ขนาดนั้น แถวเวลาเช็คซาวนด์ก็น้อย เสียงเลยไม่ดี แม้จะพยายามเต็มที่ แต่ก็น่าเสียดายที่ไม่เต็มร้อยครับ
จนถึงเวลาที่ผมรอคอยคือ Brand New Heavies ที่ออกมาโชว์ฝีมืออย่างเต็มที่ และการที่ได้ Davenport นักร้องยุคก่อตั้งกลับมาร่วมงาน ทำให้ผมได้แต่ดูและชื่นชมพวกเขาอย่างหมดใจจริงๆครับ ไม่เพียงแค่ทักษะเจ๋งๆที่เขาแสดงให้เห็น แต่วิญญาณของความสนุกนั้นแผ่ออกมาจากริมฝีปากของ Davenport ไปทั่วเวทีจริงๆครับ และการได้ฟังเพลงโปรดอย่าง You Are The Universe แบบสดๆนั้น บอกตามตรงว่าลืมไม่ลงจริงๆครับ ช่วงท้ายพวกเขาเชิญ นุ้ย และ Groove Riders มาแจมด้วย และปิดการแสดงอย่างงดงามครับ จากนั้นผมเลือกกลับก่อนเพราะว่าดึกมากแล้ว ทนรอดู Groove Riders ไม่ไหว ต้องขอโทษด้วยครับ
งานนี้ ผมชอบที่เอาวงดังๆมาเล่น แต่ส่วนตัวแล้ว ไม่ค่อยชอบแนว Super Group ครับ เพราะรุ้สึกเหมือนไม่จริงจังเท่าเล่นวงหลัก ส่วนที่ขอติอีกหน่อยคือ ช่วงเปลี่ยนวง ช้ามาก ทำให้เวลาเลทมาก ผมดู Taste of Chaos ญี่ปุ่น เล่น 7 วง จบทันเวลา ไม่มีเลทครับ น่าจะแก้ตรงนี้หน่อย นอกนั้นก็ไม่มีอะไรมากครับ เพราะรัก ถึงติครับ หวังว่า ถ้าครั้งหน้ามีอีกก็ชวนกันด้วยแล้วกันนะครับ
(ดูรูปทั้งหมดได้ที่ http://www.facebook.com/album.php?aid=143613&id=634175288&l=3e3086d1a3)
No comments:
Post a Comment