Friday, August 21, 2009

Florence and the Machine อีสาวมาแรงแห่งปี

แป๊บๆปีนึงก็ป่านมาซะขนาดนี้แล้วนะครับ จู่ๆ รู้สึกตัวอีกทีก็เดือนสิงหาคมแล้ว และแต่ละปีๆก็มีศิลปินเกิดใหม่มาเรื่อยๆ เลยต้องขอเอามาแนะนำให้ได้รู้จักกันอย่างไม่ขาดตอนนะครับ และที่จะมาแนะนำในวันนี้คือ Florence and the Machine ที่เป็นศิลปินหญิงที่ร้อนแรง และได้รับการจับตามองจากสื่อในอังกฤษอย่างต่อเนื่องครับ

florence2

Florence and the Machine คือชื่อของ Florence Welsh กับศิลปินที่ร่วมเป็นวงสนับสนุนให้เธอกลายเป็นหนึ่งในศิลปินที่ถูกจับตามองมากที่สุดในปีนี้ Florence (ฟลอเรนส์) คือเด็กสาวที่โตขึ้นมาในทางตอนใต้ของกรุงลอนดอนโดยแม่ของเธอกล่อมเธอด้วยเพลงของ The Smiths เพื่อให้เธอนอนหลับ (เป็นแม่ที่แนวมาก) และจากการทีมีพ่อแม่แนวๆแบบนี้ ทำให้เธอได้ฟังดนตรีหลากหลายโดยเฉพาะนักร้องระดับตำนานตั้งแต่ Tom Jones ยัน Etta James ทำให้ชีวิตของเธอจะตกอยู่ในวังวนของดนตรีเสมอ นอกจากจะร้องเพลงตอนอยู่โรงเรียนเสมอแล้ว เธอยังร้องทุกที่เท่าที่จะทำได้ จนได้โอกาสเรียนร้องเพลงอย่างจริงจังเมื่ออายุ 11 แต่พอโตขึ้นหน่อย เธอก็กลายเป็นสาวก Nirvana และ Green Day และเริ่มรับอิทธิพลของพังค์มา ถึงขนาดเข้าร่วมวงพังค์ด้วย จากนั้นก็ไปซึมซับความดิบกร้านของการาจจาก The White Stripes ต่อมา จนทำให้เรารู้ได้ว่ารากของดนตรีของเธอนั้นผสมหลากหลายมาก (ไม่เหมือนในบางประเทศที่ถ้าไม่เป็นป๊อปเบาๆผสมฟังค์นิดๆกับเนื้อเพลงหวานๆ ก็เปลี่ยนแนวตามโปรดิวเซอร์ โดยที่เราไม่เคยรู้เลยว่าแต่ละคนมันฟังเพลงอะไรมาก่อนเข้าวงการ)

ต่อมาเธอก็เริ่มตั้งวงกับเพื่อน และจากชื่อยาวๆ ก็ถูกย่อมาเหลือแค่ Florence and the Machine ซึ่ง The Machine กลายเป็นวงซัพพอร์ทให้เธอไปแทน โดยที่ในอดีตสมาชิกหลักของ The Machine คือ Devonte Hynes จาก Lightspeed Champion (หรืออดีตวงโคตรแรงอย่าง Test Icicles) แต่ตอนนี้ก็เป็นนักดนตรีรายอื่นสลับมาเล่นแทน นอกจากนี้ กองหลังที่สนับสนุนเธอเป็นอย่างดีอีกหนึ่งแรงก็คือดีเจสุดเปรี้ยวอย่าง Queen of Noize ที่ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการให้เธออีกแรง

florence16 

เธอเริ่มสร้างผลงานด้วยการออกซิงเกิ้ลชื่อแสบอย่าง Kiss with a Fist กับค่าย Moshi Moshi ที่เป็นเพลงการาจดิบๆบวกกับเสียงร้องแบบบลูส์ของเธอ ทำให้มันเป็นที่จับตามองของนักวิจารณ์ทันที และ กลายเป็นหนึ่งในซิงเกิ้ลมาแรงของวงการอินดี้ปี 2008 และในปีนี้เธอก็ยิ่งก็กลายเป็นศิลปินใหม่ที่มาแรงสุดๆ เมื่อเธอออกซิงเกิ้ลที่สองคือ Dog Days Are Over ที่สุดแสนจะอาร์ท จากการที่เพลงค่อยๆโหมโรงมาผ่านเครื่องดนตรีทีละชิ้นๆ จนเมื่อกลองดังขึ้นแหละครับ ที่ทำให้เราแทบจะเผลอกระโดดเล่นบนเตียงของเราไปตามเพลงเลย

แต่เพลงที่ทำให้เธอเป็นที่รู้จักกันไปทั่วเกาะอังกฤษคือซิงเกิ้ลที่สาม นั่นคือ Rabbit Heart (Raise It Up) ที่ช่างแปลกและแหวกแนว ด้วยความที่มันเต็มไปด้วยบรรยากาศพิลึกๆตลอดทั้งเพลง ยิ่งบวกกับมิวสิควิดีโอ ทำให้เรารู้สึกเหมือนกับถูกดึงเข้าไปในงานเลี้ยงน้ำชาสุดเพี้ยนในโลกของอลิซในแดนมหัศจรรย์ ผมยังคิดเลยว่า ต่อให้ใช้คำทั้งหมดที่มีในพจนานุกรม ยังไม่พอที่จะเอามาบรรยายความยอดเยี่ยมของเพลงๆนี้ได้เลยด้วยซ้ำ และจากเพลงนี้เองที่ส่งให้เธอเป็นดาวโรจน์มาแรงของวงการเพลงอังกฤษอย่างแท้จริง

และในที่สุด อัลบั้มแรกของเธอ Lungs ก็ออกวางขายในปีนี้ และไม่เกินเลยอะไรถ้าจะพูดว่ามันคืออัลบั้มที่นักวิจารณ์และแฟนดนตรีเฝ้ารอกันมาตลอดปีนี้ แต่น่าเสียดายไปหน่อยที่ เธอไม่อาจะเติมเต็มความคาดหวังของทุกคนได้ แม้มันจะไม่ใช่อัลบั้มที่แย่ แต่เทียบกับความ Hype รอบๆตัวเธอแล้ว มันน่าจะทำได้ดีกว่านี้ครับ 3 เพลงแรกของอัลบั้มอย่าง Dog Days Are Over, Rabbit Heart และ I am not calling you a liar นั้นเยี่ยมไร้ที่ติ เป็นการประสานงานที่งดงามไม่ต่างจากกองหลังเอซี มิลานยุคแคลสสิคจริงๆ

florence-and-the-machine 

แต่ว่าที่น่าเสียดายคือนอกเหนือจากสามเพลงนั้นแล้ว เพลงที่เหลือออกจะซ้ำซาก วนเวียนไปหน่อย ซึ่ง เท่าที่อ่านสัมภาษณ์ ก็อาจจะเป็นเพราะว่า เธอต้องการให้งานเพลงออกมามีความไหลลื่น เป็นเนื้อเดียวกัน ซึ่งเป็นไอเดียที่ไม่เลว เพียงแต่ มันอาจจะได้ผลดีเกินไปหน่อย เลยเป็นเหมือนเพลงเดิม ซ้ำไปมาแทน

แต่อย่างไรก็ตาม เธอก็ยังเป็นศิลปินที่น่าลุ้นมากๆครับ เพราะตอนนี้ก็จ่อชิงรางวัล Mercury Prize ไปเรียบร้อยแล้วครับ นอกจากนี้ยังชนะรางวัลย่อยๆอย่างอื่นอีกด้วย แถมยังได้เล่นสดในเทศกาลระดับยักษ์อย่าง Glastonbury และ Carling Leeds and Reading Festival อีกด้วยครับ ใครจะเชื่อว่ามาแรงได้ขนาดนี้ ปีนี้คงต้องแย่งกันแล้วล่ะครับ ว่าระหว่างเธอกับ Lady Gaga ใครจะเป็นศิลปินหญิงหน้าใหม่ที่มาแรงกว่ากัน

 

No comments: