หลังจากรับหน้าที่นี้มาเกือบสามปี วงที่เคยเขียนถึงแล้ว ก็ทยอยออกผลงานใหม่ๆมาเรื่อยๆ ทำให้ต้องมารวบเขียนเป็นรีวิวผลงานใหม่ๆแทน ซึ่งคราวนี้ก็เป็นคิวของงานรีวิวแล้วครับ
Mystery Jets – Serotonin
งานชุดที่สามของเด็กหนุ่มทั้ง 4 จาก Eel Pie Island ที่เป็นหนึ่งในวงรุ่นน้อง The Libertines ไม่กี่วงที่ยืนหยัดได้อย่างงดงาม พวกเขาสร้างงานเพลงกีตาร์ป๊อปในแบบของพวกเขาได้อย่างยอดเยี่ยมในงานชุดที่แล้ว แต่กับงานชุดนี้ พวกเขาก้าวไปข้างหน้าด้วยการลดความเป็นป๊อปจ๋าแบบ Two Doors Down ไป แต่กลับมาด้วยความลุ่มลึกในงานเพลง ตามวัยของพวกเขา และเนื้อเพลงที่เกี่ยวกับความรักที่ไม่สมหวังก็ทำให้มันกลายเป็นอัลบั้มที่เปิดใจกับคนฟังมากที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยทำมา โดยเริ่มตั้งแต่เพลงแรก Alice Springs ที่เนื้อเพลงกล่าวว่า หากได้ความรักจากเธอแล้ว ชีวิตคงไม่มีอะไร มันเป็นเพลงร๊อคที่จังวะเร็วและยังมีความอลังการแบบที่ U2 หรือ Coldplay ถนัด แต่ถ้าคุณยังชอบเพลงแบบ Two Doors Down ก็ยังมี Show Me The Light ให้ได้สนุกกัน หรือเพลง Lady Grey และ Flash A Hungry Smile ที่ชวนให้คิดถึง Blur ยุคแรกๆ Dreaming Of Another World ซิงเกิ้ลแรกก็เป็นเพลงป๊อปชวนฝันได้เป็นอย่างดี ในขณะที่ The Girl is Gone ก็เป็นเพลงง่ายๆที่เนื้อเพลงออกจะช้ำรักไปสักหน่อย ส่วนเพลงโปรดผมคงเป็น Serotonin ที่เท่และเซ็กซี่เหลือเกิน นอกจากนี้ยังมีเพลงอย่าง It's Too Late To Talk และ Melt ให้ได้ซึ้งกันอีกครับ งานชุดนี้ พวกเขาเติบโตขึ้นมาอย่างชัดเจนและแซงหน้าวงรุ่นเดียวกันไปเยอะจริงๆครับ และควรจะเป็นหนึ่งในงานเพลงชั้นยอดของปีนี้เลยทีเดียวครับ
MIA – Maya
อัลบั้มชุดที่สามของแม่สาวที่แสนจะก๋ากั๋นคนนี้ ที่ตั้งแต่ปกก็ดูน่าสนุกแล้วที่เธอเอาสิ่งที่เราคุ้นเคยดีมาล้อเล่นแบบนี้ และอัลบั้มนี้ก็เป็นงานที่พัฒนาเธอไปอีกขึ้นหนึ่งและทำให้เราได้รู้ว่าเธอยังมีของดีที่จะปล่อยออกมาเรื่อยๆ แค่เพลงเปิดตัว The Message ที่เหมือน ARE Weapons มาร้องเสียดสีรัฐบาลก็ชวนทึ่งแล้วครับ ช่วงต้นของอัลบั้มเต็มไปด้วยเพลงที่เอาจังหวะโครมครามจากนรกมาขยำให้เราได้ฟังกัน ตั้งแต่ Steppin Up ที่โครมครามได้ใจเหลือเกิน XXXO ก็เป็นงานเพลงเต้นรำที่เต็มไปด้วยเสียงประกอบสุดเท่ ส่วน Teqkilla และ Lovalot ก็ยังโครมครามราวกับงานเลี้ยงของชาวเผ่าที่บ้าคลั่ง ส่วนช่วงหลังอัลบั้ม เพลงออกจะผ่อนคลายกว่าเดิม เช่น It Takes A Muscle ก็เป็นเรกเก้ Dub ที่ฟังเอาเพลินได้สบายๆ เช่นเดียวกับ Tell Me Why ที่เหมือนักบวชอินเดียฟัง Echo Dek แต่เธอก็ไม่ปล่อยให้เราผ่อนคลายนานครับ ยังมาปล่อยอาวุธหนักใน Meds And Feds ที่ทั้งหนักจากจังหวะและเสียงกีตาร์กรีดสมอง เช่นเดียวกับ Born Free ที่เหมือนงาน No Wave เก่าๆ แม้ Maya จะไม่มีเพลงเซ็กซี่แบบ Jimmy ในชุดที่แล้ว และค่อนข้างเครียดขึ้น แต่มันก็ยังเป็นผลงานของอัจฉริยะตัวจริงที่เราไม่ควรพลาดครับ
RPA & The United Nations Of Sound - United Nations Of Sound
หรือ งานเดี่ยวชิ้นที่ 4 ของ Richard Ashcroft นักร้องนำวง The Verve บุรุษผู้มีอีโก้ใหญ่คับเวที ที่เขาเลือกใช้ชื่อนี้แทนในการทำผลงานชิ้นนี้น่าจะมาจากสาเหตุที่ว่า เขาอยากจะทำงานเพลงตามแนวเพลงที่เป็นแรงบันดาลใจกับเขา มากกว่าที่จะทำเพลงแบบที่เคยทำมา จึงเลือกที่จะเปลี่ยนเป็นสหประชาชาติแห่งเสียงแทน ซึ่งมันก็เป็นไปตามนั้นจริงๆ เพราะหากได้ฟังทั้งอัลบั้มแล้ว มันคือการขยายขอบเขตงานเพลงของเขาออกไปในหลายๆด้าน จนไม่ควรจะติดอยู่กับชื่อ Richard Ashcroft จริงๆ Are You Ready ที่เป็นเพลงเปิดตัว ก็คือเพลงในแบบของเขาที่เพิ่มความอลังการของเครื่องสายเข้ามา ส่วนซิงเกิ้ลต่อไปอย่าง Born Again ก็เพิ่มวงประสานเสียงเข้าไปอีกที ในขณะที่หลายเพลงได้อิทธิพลโซลอย่าง Marvin Gaye อย่างชัดเจน เช่น Good Lovin' และ Life Can Be So Beautiful ส่วน How Deep Is Your Man ก็เป็นงานเพลงบลูส์แบบคลาสสิก ในขณะที่ Beatitudes ก็เป็นเพลงฟังดูเหมือนงานของ Rolling Stones เอาซะมาก และยังมีเพลงบัลลาดอย่าง She Brings Me The Music เรียกได้ว่างานชุดนี้คืองานต้มยำรวมมิตรแนวเพลงที่เป็นแรงบันดาลใจให้ Richard Ashcroft จริงๆ แทนที่จะเลือกเพลงโปรดมาทำอัลบั้มรวมเพลงแบบ Back on the Bus หรือ Back to Mine เขากลับเลือกทำงานเพลงนั้นออกมาเองเลยครับ น่าสนใจเอาเรื่องทีเดียว
No comments:
Post a Comment