บางคนอาจจะสงสัยว่า อ้าว เขียนถึงไปแล้วนี่นา แต่ที่ต้องขอเอาอัลบั้มนี้มาเขียนถึงอีกรอบ เพราะว่าหลังจากที่มันถูกวางขายในบ้านเราในแบบแผ่นนำเข้าในช่วงแรก ตอนนี้ ค่าย Warner ไทย ก็ได้ลิขสิทธิ์ของศิลปินที่สังกัดในค่าย Emi บ้านเรา ซึ่งพึ่งปิดตัวลงไปเมื่อปีที่แล้ว ดังนั้น จากนี้ไป ใครที่รออัลบั้มอะไรอยู่ ก็น่าจะถูกทยอยออกมาวางขายแล้วครับ และอัลบั้มชุดที่ 4 ของ Coldplay ก็เช่นเดียวกันครับ ต้องขอบคุณ Warner จริงๆที่ทยอยส่งแผ่นมาถึงที่ทำงานตลอดเลย อีกสาเหตุหนึ่งที่ต้องเอาอัลบั้มนี้มาเขียนถึง ก็เพราะความยอดเยี่ยมของมันที่ทำให้รู้สึกว่าครั้งที่แล้วยังระบายออกไม่พอครับ
ในยุคที่ผู้คนแห่กันดาวน์โหลดเพลงผ่านอินเตอร์เน็ตกันเป็นล่ำเป็นสัน อัลบั้มใหม่ของ Coldplay กับทำยอดขายเปิดตัวได้อย่างงดงามจนน่าตกใจ พิสูจน์ได้ว่า พวกเขาคือตัวจริง เสียงจริงของวงการ และยังพิสูจน์ให้เห็นว่า พวกเขาไม่ใช่วงที่ทำได้แค่ครวญเพลงแบบซึมๆเศร้าๆ Mellow ในสามอัลบั้มที่ผ่านมาแบบที่หลายคนปรามาสไว้ แต่เมื่อพวกเขาต้องการทำดนตรีที่อลังการขนาดสนามเวมบลีย์สามสนามยังจุไม่พอ พวกเขาก็ทำได้สบายๆ แค่การเลือก Brian Eno มาร่วมงานด้วย ก็แสดงอย่างชัดเจนแล้วว่าพวกเขาต้องการที่จะเป็นวงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกตามรุ่นพี่ๆที่ Eno เคยโปรดิวซ์มาอย่าง U2 และพวกเขาก็ได้ตามที่ต้องการเมื่อง Viva La Vida ส่งให้พวกเขากลายเป็นวงที่ครองโลกไปใน
ทันที ทุกๆเพลงในอัลบั้มชุดนี้เปี่ยมไปด้วยพลัง ความสดใหม่ ความทะเยอทะยาน และความอลังการ จนถ้าหากต้องเขียนบรรยายทั้งหมด คงทำให้บรรยากาศโลกร้อนขึ้นอีกเยอะ เพราะคงต้องใช้ต้นไม้จำนวนมหาศาลเพื่อมาทำกระดาษให้พอเขียนบรรยายความยอดเยี่ยมทั้งหมดของมัน อัลบั้มนี้ยอดเยี่ยมตั้งแต่เพลงแรกยันเพลงสุดท้ายครับ แต่แค่กดไปหาเพลง Viva La Vida ที่เป็นซิงเกิ้ลที่สอง ก็ทำให้ผมขนลุกทุกครั้งที่ได้ยิน เพราะความสมบูรณ์แบบอย่างไร้ที่ติของมัน เป็นบทเพลงที่เหมือนการลั่นกลองศึกเพื่อเตรียมตัวเข้าสู่สงครามครูเสด มันทั้งยอดเยี่ยมและน่าสนใจค้นหาความหมายที่อยู่หลังเนื้อเพลงว่ามันกำลังกล่าวถึงใครกันแน่ ยิ่งช่วงนี้ผมกำลังติดหนังสือที่เกี่ยวกับสงครามครูเสดทำให้ยิ่งอินกับเนื้อหาเข้าไปใหญ่ครับ เอาเข้าจริงๆแล้ว ทุกเพลงในอัลบั้มนี้ยอดเยี่ยมพอที่จะถูกตัดออกมาเป็นซิงเกิ้ลได้ทั้งหมดเลย นอกจากเนื้อเพลงที่วนเวียนอยู่กับ ความรัก สงคราม และสันติภาพซึ่งเป็นสิ่งที่วนเวียนอยู่ในประวิติศาสตร์ของมวลมนุษย์แล้ว ภาคดนตรีที่ประโคมด้วยเครื่องสายทั้งหลายก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน สรุปได้ง่ายๆว่า ยอดเยี่ยมเกินคุ้มครับ
No comments:
Post a Comment