ในที่สุด ในที่สุด คอนเสิร์ตนึงที่แฟนเพลงชาวไทยคงรอคอยมาอย่างยาวนานสองสามนาน ไปจนถึงหลายๆนาน ก็เป็นจริงๆแล้วครับ กว่าที่จะเกิดคอนเสิร์ตนี้ได้ แฟนเพลงชาวไทยก็เฝ้ารอจนคอยืดคอยาว หลายๆคนคงเลิกล้มความตั้งใจไปตามวัยและภาระที่เพิ่มมากขึ้น บางคนก็แอบน้อยใจ หันไปเป็นติ่งหูเกาหลีรุ่นอาวุโสแทน แต่ไม่ว่าจะยังไง อีกไม่นาน วง X-Japan วงญี่ปุ่นที่มือชื่อเสียงในเมืองไทยที่สุดก็จะพาตัวเป็นๆมาเล่นให้เราดูกันสดๆแล้วล่ะครับ
สำหรับเด็กรุ่นใหม่วัยมัธยม อาจจะไม่ค่อยรู้จักว่า X-Japan ยิ่งใหญ่แค่ไหน เลยขอสรุปให้ง่ายๆล่ะกันครับว่า ในยุคที่อินเตอร์เน็ตและโซเชี่ยลมีเดียยังไม่มีอิทธิพลต่อชีวิตมนุษย์ขนาดนี้ วง X-Japan คือวงดนตรีต่างชาติวงหนึ่งที่ประสบความสำเร็จในบ้านเราแบบยิ่งใหญ่จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นกระแส หรือยอดขาย เรียกได้ว่าฮิตไปทั่ว และสร้างกระแสความนิยมดนตรีเฮวี่เมทัลแบบญี่ปุ่นในบ้านเราได้อย่างยิ่งใหญ่มากๆครับ
พวกเขารวมวงกันมานานตั้งแต่สองสมาชิกหลักอย่าง Yoshiki (โยชิกิ มือกลองและเปียโน) ร่วมตั้งวงกับ Toshi (โทชิ ร้องนำ) ตั้งวงตั้งแต่สมัยมัธยม ก่อนที่จะได้ Hide (ฮิเดะ กีตาร์) Pata (พาตะ กีตาร์) และ Taiji (ไทจิ เบส ก่อนจะออกจากวงและได้ Heath ฮีธมาแทนในภายหลัง) มาฟอร์มวงกันอย่างเป็นทางการในชื่อ X ในปี 1987 ยุคที่วงแกลม และเฮวี่เมทัล เบ่งบานไปทั่วโลก
พวกเขาได้เข้าสังกัดค่ายโซนี่ และเริ่มโด่งดังกับอัลบั้มที่สอง Blue Blood โดยมีเพลงเด่นอย่าง Kurenai และ Endless Rain ในช่วงปี 1989 แต่ก็ต้องเพิ่ม Japan เข้าไปในชื่อวงเนื่องจากไปชนกับวงพังค์อเมริกัน หลังจากนั้น อัลบั้มต่อมาอย่าง Jealousy ก็สร้างชื่อให้กับพวกเขาอีกครั้ง ด้วยเพลง You Say Anything และ Silent Jealousy
ไม่เพียงแค่พวกเขาเป็นวงดนตรีที่ประสบความสำเร็จในการเสนอเพลงเฮวี่เมทัลให้กับตลาดที่ใหม่มากอย่างประเทศญี่ปุ่น แต่ด้วยทักษะดนตรีที่ยอดเยี่ยม การแสดงที่ทรงพลัง และการแต่งตัวที่แหวกแนวเอามากๆ ทำให้พวกเขากลายเป็นเสาหลักของวงการเมทัลประเทศญี่ปุ่น และเบิกทางให้กับวงรุ่นน้องและแนวเพลง Visual-Kei และยังเป็นวงญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงอย่างมากในต่างประเทศ
สำหรับบ้านเรา ผมเริ่มเห็นวงนี้เป็นครั้งแรกในสมัยมัธยมในรายการบันเทิงคดี เล่นเอาประทับใจมากๆ และเมื่อค่ายเพลงไทยเริ่มโปรโมต ก็กลายเป็นว่า วัยรุ่นไทยร้องเพลงบัลลาดของพวกเขากันได้แทบทุกคน และเกิดกลุ่มแฟนเพลงที่เหนียวแน่นเอามากๆ ในตอนนั้น แม้จะมีการวิงวอนแค่ไหน สุดท้าย พวกเขาก็ไม่ได้มาแสดงคอนเสิร์ตที่เมืองไทย มีเพียงแค่การมาเยือนไทยของโยชิกิให้แฟนคลับกรี้ดเท่านั้น
แต่ในที่สุด พวกเขาก็ตัดสินใจแยกวง และต่างหันไปสร้างผลงานเพลงของตัวเอง ทิ้งให้แฟนๆเหงา ก่อนที่จะเกิดเรื่องช๊อคโลกที่ ฮิเดะ ฆ่าตัวตาย เล่นเอาแฟนเพลงเศร้าโศกไปตามกัน ทำให้อนาคตของพวกเขาอยู่ในปริศนา แม้สมาชิกแต่ละคนยังอยู่ในวงการเพลงเสมอ ส่วนโทชิ ก็เกิดปัญหาเรื่องศาสนาที่เขานับถืออยู่
แต่ในที่สุด ในปี 2007 พวกเขาก็ประกาศการกลับมารวมตัวกันอีกครั้งให้แฟนๆดีใจ ก่อนจะจัดคอนเสิร์ตฉลองการกลับมาในปี 2008 โดยได้มือกีตาร์อย่าง Wes Borland (Limp Bizkit), Richard Fortus และ Sugizo (อดีต Luna Sea) มาทำหน้าที่แทนฮิเดะ และยังใช้โฮโลแกรม ฉายภาพฮิเดะเล่นบนเวทีด้วย และหลังจากนั้น Sugizo ก็ได้เป็นมือกีตาร์ของวงอย่างเป็นทางการ
หลังจากผ่านอะไรมาเยอะมาก ทั้งการฆ่าตัวตายของฮิเดะ การออกมายอมรับปัญหาเรื่องศาสนาของโทชิที่เล่นเอาเขาหมดตัวและครอบครัวแตกแยก (ไม่นับเรื่องที่ไทจิพึ่งฆ่าตัวตายเมื่อเดือนก่อนอีก) พวกเขาก็กลับมาทวงบัลลังค์ของวงการเพลงร๊อคญี่ปุ่น ด้วยการเตรียมพร้อมออกอัลบั้มใหม่ และออกทัวร์ไปทั่วโลก รวมไปถึงในบ้านเราในครั้งนี้ด้วยครับ
ก็เล่นเอาสมใจแฟนเพลงจริงๆนะครับ ตอนที่อ่านคอลัมน์นี้ ผมว่า คงไม่มีตั๋วเหลือแล้วล่ะมั้งครับ เพราะว่า แค่รอบที่ให้จองก่อนโดยใช้สิทธิ์ของโออิชิ เห็นภาพคนที่ไปรอที่เซ็นทรัลเวิร์ลด์แล้ว บอกตรงๆครับว่า โอวววววววว เพราะทีแรก นึกว่าจะมีใครไปยึดราชประสงค์ซะอีก เต็มเหยียด และน่าจะเป็นคอนเสิร์ตที่เรียกได้ว่าระดับยักษ์สำหรับบ้านเราอีกครั้งนึงเลยทีเดียวครับ ถ้ายังมีโอกาศอยู่ ก็อย่าพลาดประวัติศาสตร์อีกหน้านึงของวงการเพลง กับคอนเสิร์ต X Japan World Tour in Bangkok ครั้งนี้ในวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้ ที่ Impact Arena เมืองทองนะครับ อย่าลืม เตรียมกล้ามเนื้อคอไว้ด้วย
No comments:
Post a Comment