งานเดี่ยวชุดที่สามของศิลปินคุณภาพผู้โด่งดังจากการร่วมงานกับคนอื่นอีกคนครับ
Cee Lo Green เริ่มต้นชีวิตศิลปินด้วยการเป็นสมาชิกกลุ่มฮิปฮอป Goodie Mob จสกแดนใต้อย่าง Atlanta ที่มีแนวทางของตัวเองต่างไปจาก LA และ New York โดยได้ปีกของรุ่นพี่อย่าง Outkast คอยช่วยหนุนแรง และเมื่อเริ่มดัง Cee Lo ก็พยายามจะออกงานเดี่ยว แต่น่าเสียดายที่ความพยายามครั้งแรกของเขาต้องจบลงด้วยงานแค่สองอัลบั้ม ส่วนอนาคตกับ Goodie Mob ก็ไม่แน่นอน แต่สิ่งที่ช่วยจุดประกายให้กับเขาคือ การร่วมงานกับ DJ Danger Mouse เจ้าของงานรีมิกซ์สารพัดที่พวกเขาเคยร่วมงานกันมาก่อน และตัดสินใจร่วมงานจริงจังในนาม Gnarl Barkley ที่กลายเป็นคู่หูที่ฮิตสุดๆจากเพลงเปิดตัวอย่าง Crazy ที่ดังไปทั่วทุกแห่งหน และการแต่งตัวแบบบ้าๆบอๆ ก็เรียกความสนใจได้อย่างมาก และทำให้ Cee Lo Green ได้กลับเข้ามาอยู่ในสปอตไลต์อีกครั้ง
และ The Lady Killer ก็กลายเป็นความพยายามครั้งใหม่ในการเริ่มต้นอาชีพศิลปินเดี่ยวของเขาอีกครั้ง และมันกลายเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เอามากๆครับ เริ่มตั้งแต่ซิงเกิ้ลแรกอย่าง Fuck You กลายเป็นงานโซลป๊อปที่ติดหูและดังไปทั่วทุกแห่งจริงๆครับ (ยังมีเวอชั่น Forget You จะได้ไม่เรตเกินไปด้วยครับ) ผมแอบชอบการเปรียบเปรยสารพัดในเพลงนี้จริงๆครับ (ผลงานของ Bruno Mars นั่นแหละครับ) อีกเพลงที่เท่จริงๆก็คือ Bright Lights, Bigger City ที่ดนตรีประกอบข้างหลังมันล้ำลึกเอามาก It’s OK ก็มากับซาวด์แบบย้อนยุคหน่อยๆแบบที่ Paul Epworth โปรดิวเซอร์มือทองถนัด เช่นกันกับ No One's Gonna Love You ที่เท่เอามากครับ อีกเพลงที่แนะนำคือ Fool For You เพลงโซลที่ได้ตำนานโซลดิสโก้อย่าง Phillip Bailey จาก Earth, Wind and Fire มาร่วมร้อง คลาสสิกครับ
No comments:
Post a Comment