Monday, May 17, 2010

The Riot Songs บทเพลงขบถ

ตอนที่กำลังเขียนบทความนี้ ผมยอมรับว่าอยู่ในสภาพที่ไม่ค่อยเป็นสุขเท่าไหร่ เนื่องจากนั่งตามข่าวการชุมนุมประท้วงที่กำลังโดนเรียกพื้นที่คือในลักษณธการล้อมปราบซะมากกว่า จนเกิดเหตุคนตายอีกแล้ว ผมเป็นคนสันติวิธี เป็นมนุษยนิยม ไม่อยากเห็นคนตาย ไม่ว่าจะสีไหน ฝั่งไหน แต่ก็ต้องเจ็บปวดใจกับกระแสในโลกออนไลน์ที่ผมสิงอยู่เป็นประจำ เนื่องจากเห็นผู้คนสารพัดดีใจที่อีกฝ่ายตาย จนอยากให้เราคิดว่า ถ้าหากนั่นเป็นญาติ เป็นพี่ เป็นน้องของเรา เราจะคิดอย่างไร นี่มันไม่ใช่เกม ไม่ใช่หนัง ที่คนตายไปแล้วจะฟื้นขึ้นมาได้ จนทำให้ผมสงสัยว่าสังคมเรามันเป็นอะไรกันไปแล้ว ไม่อยากให้คนลืมว่า ยังเป็นคนเหมือนกันครับ ไม่ใช่ควายหรืออะไรทั้งสิ้น

ขอโทษที่นอกเรื่องไปเยอะครับ แต่สถานการณ์แบบนี้ ผมเองไม่มีอารมณ์เขียนอะไรทั้งสิ้น เรื่องที่เตรียมไว้เขียน ก็เขียนไม่ออก จะให้เขียนเรื่องแฮปปี้ๆ ก็คงลำบากครับ ผมเลยเปลี่ยนมาเขียนเกี่ยวกับเพลงกับการประท้วงแทน

ตั้งแต่ยุคหลังสงครามเป็นต้นมา บทเพลงก็กลายเป็นอาวุธอีกอย่างหนึ่งในการประท้วง หรือเรียกร้องสิทธิของคนที่ไม่มีสิทธิ์มีเสียงในสังคม ตั้งแต่บ๊อบ ดีแลนกรีดเสียงกีตาร์ครวญเพลง Blowin’ In The Wind บทเพลงก็กลายเป็นอาวุธที่มีอำนาจสูงในการประท้วง ทำให้หลังจากนั้น จิตวิญญาณการประท้วงยังคงสืบต่อมาในวงการเพลง จนหลายครั้ง การทำเพลงคือการแสดงออกเพื่อต่อสู้กับสิ่งที่นักดนตรีเหล่านั้นเห็นไม่ได้เห็นด้วย หรือต่อสู้เพื่อคนที่ด้อยโอกาสในสังคม อย่างเช่นการแต่งเพลงให้กับคนคุกของ Johnny Cash แต่บางส่วนต่อมาก็กลายเป็นดนตรีพังค์ ที่ต่อต้านระบบขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็น Sex Pistols หรือ The Clash ที่แต่งเพลงเจ๋งๆไว้หลายเพลง เช่น I Fought The Law

แต่เพลงที่ผมหยิบมาเสมอเมื่อนึกถึงการต่อสู้ทางการเมืองของประชาชน คือเพลง Nehemiah ซิงเกิ้ลสุดท้ายจากอัลบั้ม The Lost Riots ของ กบฏผู้พ่ายแพ้อย่าง Hope of The States นั่นเองครับ แม้วงนี้จะแตกไปแล้ว (และผมเคยเขียนถึงแล้ว) แต่ก็ยังทิ้งผลงานระดับ Masterpiece ไว้ให้พวกเราได้ชื่นชมอยู่เสมอ ที่ผมเลือกเพลงนี้ ก็มีความหมายที่อยู่ในเนื้อเพลงอยู่แล้วล่ะครับ ลองมาดูกัน ผมคงขอแปลเฉพาะท่อนที่สำคัญด้วยเหตุผลของเนื้อที่ในคอลัมน์นะครับ

Nehemiah, last survivor
In this cynical world.
Sparks come from anywhere,
It's the fire that matters.
Nehemiah sing to the storm,
Make it turn around.
It's all decided before you're born.
Friendly fire, burn the liars.
Don't feel like you're alone.
Let them all hide behind
Dead flags and old lies.
Nehemiah you were the leader,
We all just followed.
Sparks come from anywhere,
It's the fire that matters.
Hear us singing we sing:
yeah, yeah, yeah, yeah.
No self pity we sing:
yeah, yeah, yeah, yeah, yeah.
People come on make a stand.
Come on people if you try you can.
You're not alone when the lights go off.
We stand together when it all stops.

กระสุนของพวกเดียวกัน ฆ่าคนโกหก

รู้สึกไม่โดดเดี่ยวอีกแล้ว

ปล่อยให้ของพวกนั้นอยู่ข้างหลังเรา

ธงที่ตายแล้วและคำโกหกคร่ำครึ

เนเฮไมห์ คุณคือผู้นำ

ที่เราจะติดตาม

ประกายไฟมาจากทุกที่

แต่ต้นไฟสิ ที่สำคัญจริงๆ

พวกเราจะร้องไปด้วยกัน

เย่ห์ เย่ห์ เย่ห์ เย่ห์

ไม่ต้องสมเพชตัวเอง

เย่ห์ เย่ห์ เย่ห์ เย่ห์

ฝูงชนเอ๋ย มาร่วมสู้กัน

มาเถอะ หากเราสู้ เราต้องทำได้

เธอไม่เดียวดายแม้ไร้ซึ่งแสงไฟ

เราจะยืนอยู่เคียงข้างกันเมื่อทุกอย่างมันจบลง

โดยรวมแล้ว อัลบั้มนี้ ทำออกมาในบรรยากาศการโจมตีประเทศอิรักรอบที่สอง ทั้งอัลบั้มเลยเชื่อมโยงกับสถานการณ์นั้น แค่ MV ของซิงเกิ้ลแรกอย่าง Black Dollar Bills ก็โดนแบนทันที ข้อหาทำให้คนนึกถึงสงครามและความโหดร้าย แต่สุดท้ายแล้วพวกเขาก็เลือกที่จะสุ้ด้วยเสียงดนตรีและอุดมการณ์ของพวกเขาครับ แม้ว่า พวกเขาจะแยกวงหลังจากออกผลงานมาแค่สองอัลบั้ม แต่อย่างน้อย พวกเขาก็ได้สร้างผลงานที่จะเป็นที่จดจำในวงการเพลง และเพลง Nehemiah ก็เป็นเพลงที่แสดงให้เห็นถึงความหวังในการลุกขึ้นสู้ แม้วันนี้อาจจะพ่ายแพ้ แต่หากสู้ต่อไป สักวัน ก็จะเป็นชัยชนะของประชาชนนั่นเองhope_of_the_states

ไม่ว่าตอนนี้จะมืดมิดแค่ไหน แต่อย่างน้อย แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ก็ยังทำให้เรามีความหวังเสมอครับ แต่ตอนนี้ ผมขอมองหาแสงที่ปลายอุโมงค์ก่อนครับ

ขอโทษนะครับที่เรื่องวันนี้แทบจะไม่เกี่ยวกับเพลง จะพยายามกลับมาเขียนให้ได้เหมือนเดิมครับ

สุดท้าย วันนี้ที่คุณถือหนังสือพิมพ์เล่มนี้อ่านอยู่ จำได้ไหมครับว่าเคยเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นในวันนี้เมื่อ 18 ปีก่อน

No comments: