Monday, May 24, 2010

ซีดีแผ่นใหม่ Placebo และ Tom McRae

Technorati Tags: ,,

ต้องขอออกตัวไว้ก่อนว่า จนกระทั่งเขียนงานชิ้นนี้ ผมเองก็ยังปรับสภาพสมองตัวเองไม่เสร็จ หลังจากช๊อคจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบ้านเราทั้งหมด ผมคงทำอะไรไม่ได้นอกจากขอไว้อาลัยให้กับความสูญเสียทั้งหมดทั้งปวง และหวังว่าคนไทยจะเอาเหตุการณ์นี้เป็นอุทาหรสอนใจ เพื่อที่จะไม่ได้ทำอะไรผิดพลาดแบบนี้อีก เพื่อที่มันจะไม่ได้เกิดขึ้นอีก และหวังว่าเลือดของคนในชาติจะไม่ต้องหลั่งแบบไม่จำเป็นแบบนี้อีก ความขัดแย้งเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ แต่ความตาย ไม่ใช่สิ่งที่ยอมรับได้ ครับ ผมนึกไม่ถึงว่า 18 ปีผ่านไป ผมจะต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก

และเนื่องจากหมดเวลาไปกับการติดตามข่าวสารบ้านเมือง ทำให้ไม่มีเวลาพอที่จะค้นคว้าเกี่ยวกับวงดนตรีต่างๆเพื่อเอามาเสนอแบบที่ทำเป็นประจำ จึงขอหยิบเอาซีดีทีได้รับมามารีวิว ให้ท่านผู้อ่านทุกท่านได้รู้จักกันครับ

Placebo – Covers

Placebo-Covers-503100

อัลบั้มชุดใหม่ของวง Placebo ที่พึ่งมาแสดงสดในเมืองไทยหมาดๆ จะว่าใหม่ ก็ไม่ใหม่จริง เพราะว่า งานชิ้นนี้ เคยเป็นแผ่น Bonus Disc สำหรับอัลบั้ม Sleeping with Ghost ในปี 2003 มาก่อน ก่อนที่จะถูกนำเอามากผลิตออกขายในปี 2007 ในชื่อ Covers ก่อนที่บ้านเราจะเอามาทำขายในปี 2010 ที่ผ่านมา มาช้าก็ยังดีกว่าไม่มาครับ เพราะคิดว่า หลายคนคงอยากจะฟังงานชุดนี้จริงๆ

เนื่องจาก ช่วงหลังๆ กระแสงานเพลง Running Up That Hill ที่วง Placebo ไปเอาเพลงของเจ้าแม่แห่งความหลุดโลกอย่าง Kate Bush มาคัฟเวอร์ กำลังเป็นที่โด่งดัง เนื่องจากมันเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ชุดเรื่อง Vampire Diaries และบรรยากาศของเพลงที่ทั้งลึกและมืดหม่นกว่าต้นฉบับที่จังหวะจะเร็วกว่านั้น ทำให้มันเป็นเพลงที่เหมาะสมกับหนังลึกลับๆเป็นอย่างดี หลายคนยังบอกว่าชอบฉบับของ Placebo มากกว่าต้นฉบับด้วยซ้ำ และทำให้งาน Covers ที่เป็นงานที่รวมผลงานของทางวงที่นำเพลงของวงอื่นมาคัฟเวอร์ เป็นที่สนใจของหลายๆท่าน

สองเพลงที่ผมเคยฟังมาก่อนคือ Bigmouth Strikes Again ที่ทางวงเคยคัฟเวอร์ The Smiths ในอัลบั้มทริบิวต์วง The Smiths ที่ใช้ชื่อเดียวกับเพลงดังกล่าวที่ออกมาขายตั้งแต่สมัยผมยังเรียนอยู่เลยครับ ส่วนอีกเพลงคือ 20th Century Boy ของ T-Rex ที่ทางวงส่งประกวดในอัลบั้มประกอบภาพยนตร์เรื่อง Velvet Goldmine ที่โคตรจะหลุดโลก โดยที่ทางวงก็ได้ไปปรากฏตัวในภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว ส่วนเพลงนี้ก็มันและเปรี้ยวไม่แพ้ต้นฉบับครับ

นอกจากสามเพลงที่กล่าวมา เพลงอื่นๆก็เจ๋งไม่แพ้กันครับ ไม่ว่าจะเป็น Johnny and Mary ที่ทางวงเอาเพลงของ Robert Palmer มาทำใหม่ได้อย่างเพลิดเพลิน อีกเพลงที่ผมชอบคือ Where Is My Mind ที่เอาเพลงเก่าของ The Pixies มาทำใหม่ครับ ในขณะที่ Holocaust ก็เงียบเหงาและวังเวงได้บรรยากาศดีจริงๆครับ ส่วนเพลงเก่าของ Depeche Mode อย่าง I Feel You ก็ได้รับการคืนชีพอย่างน่าสนใจเช่นกันครับ โดยเฉพาะเสียงกีตาร์หลอนๆตลอดเพลงนั้นฟังได้เพลินใจจริงๆครับ ส่วนเพลงสุดท้ายที่ทำให้ผมตกใจมากที่สุดคือ Daddy Cool ที่เป็นเพลงเก่าของ Boney M ตำนานเพลงดิสโกที่พวกเขาเอามาทำใหม่ให้เป็นเพลงร๊อคได้อย่างสนุกเอาเรื่องเลยล่ะครับ จนอยากให้เอาไปเล่นตามผับคงมันพิลึก คนรุ่น The Palace คนเฮกันตรึม ถึงจะออกมาวางขายช้า แต่ก็ยังเป็นงานที่น่าสนใจครับ

Tom McRae – Alphabets of Hurricanestom-mcrae

งานเพลงชุดที่ 5 นักร้องนักแต่งเพลงรุ่นเก๋าจากอังกฤษที่ยังคงรักษาความงดงามและละเมียดละไมของบทเพลงของเขาไว้ได้อย่างดี ไม่ห่างจากแนวเพลงโฟล์คสมัยใหม่แบบที่เขาถนัด และเมื่อฟังงานชุดนี้ก็ทำให้ผมปากค้างในความงดงามของการเรียบเรียงทั้งดนตรีและภาษาที่เรียกได้ว่าสมศักดิ์ศรีนักร้องนักแต่งเพลงจริงๆ และผมดีใจและตกใจมากที่ Platinum กล้าเอาอัลบั้มดีๆแต่ไม่ดังแบบนี้มาให้เราได้ฟังกัน

เพลงอย่าง American Spirit คือเพลงที่เราอยากเปิดเมื่อขับรถทั้งคืนเพื่อไปดูประอาทิตย์ยามเช้าที่ชายหาดกับหญิงคนรักพลางกุมมือกัน ส่วนเพลงอย่าง Please ก็บ่งบอกถึงสปิริตของเสรีชนที่ชวนเรากู่ร้องเพื่ออิสระอย่างแท้จริง Can’t Find You ก็เป็นเพลงเรียบๆง่ายๆ แต่สวยงามไม่น้อยหน้าเพลงอื่น เช่นเดียวกับ Best Winter ที่ผมไม่แน่ใจว่าเสียงที่ได้ยินเป็นเสียงของ Ukulele รึเปล่า เพลงเปิดอัลบั้มอย่าง Still Love You เองก็งดงามทั้งเนื้อหาและดนตรี แต่เพลงโปรดที่สุดในอัลบั้มนี้ของผมคงเป็น Summer Of John Wayne ที่ทั้งไพเราะ ทั้งเศร้าสร้อยและตัดพ้อ จนทำให้เรานึกถึง Ryan Adams ในช่วงพีคของเขาเลยทีเดียว

Alphabets of Hurricanes อาจจะเป็นงานที่เข้าถึงยากสำหรับคนที่ไม่ไกด้ฟังเพลงอย่างจริงจังมาก แต่ลองให้เวลามันสักหน่อย แล้วจะตกหลุมรักมันแบบถอนตัวไม่ขึ้นครับ

No comments: