คิดว่าสมัยเรียน ในชั้นเรียนของทุกๆคนคงจะมีมนุษย์ประเภทที่เรียกว่า เด็กเรียน อยู่ พวกเขาคือคนที่เนิร์ดๆ ตั้งใจเรียน ใส่แว่น เอาเสื้อเข้าข้างใน ไม่เคยทำผิดกฎ และไม่เคยทำอะไรนอกเรื่อง ในขณะที่พวกเราเอาแต่โดดเรียนไปเล่นดนตรี ใครจะรู้ว่าคนพวกนี้สามารถทำเพลงเจ๋งๆออกมาได้เหมือนกัน บางวงเราแทบจะไม่เชื่อด้วยซ้ำว่าจากภาพลักษณ์ที่เห็น จะทำเพลงได้กินขาดวงพวกที่เอาแต่ทำมาดเท่ห์ฟันสาว และวงที่เอามาแนะนำในวันนี้คือ ยอดเด็กเรียนอย่าง Vampire Weekend
ในขณะที่ทุกคนฮิตกันใส่เสื้อยืดมือสองกับกางเกงเดฟรัดติ้ว รองเท้าหัวแหลมเลียนแบบ The Strokes ที่ฮิตมานานมากแล้ว หรือไม่ก็เสื้อแบบอวกาศกับสีสะท้อนแสงตามแบบนิวเรฟ แต่ Vampire Weekend ที่มาจากนิวยอร์กเหมือนกับ The Strokes กลับเข้ามาในวงการด้วยเสื้อโปโล กางเกงขาสั้น รองเท้าแล่นเรือใบ เสื้อสเวตเตอร์สีพาสเทลแบบที่ขัดกับลุคของวงอื่นๆโดยสิ้นเชิง จนทำให้เราสงสัยว่ามันมาจากนิวยอร์กเหมือนกันรึเปล่า แต่ว่าพอสืบไป ก็ไม่แปลกอะไร เพราะนิวยอร์กของพวกเขาคือ มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย มหาวิทยาลัยชั้นแนวหน้าของอเมริกาที่เป็นแหล่งรวมหัวกระทินั่นเอง และนอกจากการแต่งตัวที่แหวกแนวแล้ว พวกเขายังทำเพลงได้แหวกจากวงอื่นๆ เพราะพวกเขาทำเพลงป๊อปหนุงหนิงที่มีกลิ่นไอดนตรีแอฟริกาออกมาได้อย่างน่าสนใจจริงๆ
พวกเขาเริ่มเป็นตัวตนกันตั้งแต่สมัยที่เรียนด้วยกันที่โคลัมเบีย และพอจบ ก็ไปทำงานนประจำของใครมัน และทำงานดนตรีอื่นๆด้วย แต่ก็มาร่วมกันตั้งเป็นวง Vampire Weekend ตามชื่อของหนังสั้นของ Ezra Koenig (เอซรา ร้องนำ) โดยสมาชิกอื่นคือ Rostam Batmanglij (รอสแทม คีย์บอร์ด) Chris Tomson (คริส กลอง) และ Chris Baio (คริส เบส) และทำอัลบั้มแรกของพวกเขาไปโดยที่ทำงานประจำไปด้วย และโชคดีที่ค่าย XL Recordings เซ็นสัญญาพวกเขาเข้าสังกัด เพราะพวกเขาอยากที่จะร่วมงานกับค่ายเพลงนี้ที่ให้อิสระกับศิลปินเป็นอย่างมากอยู่แล้ว และผลงานชุดแรกของพวกเขาก็เดินหน้าเต็มตัว
ในปี 2007 พวกเขาเริ่มออกซิงเกิ้ลแรกชื่อ Mansard Roof ที่ผสมจังหวะแปลกๆชวนขยับตาม กับเสียงประกอบหลอน เสียงร้องในสไตล์ของเด็กเนิร์ด แม้มันจะไม่เข้าชาร์ต แต่ก็ฉายแววได้อย่างน่าสนใจ จนเป็นซิงเกิ้ลที่สอง A Punk ที่เป็นเพลงกีตาร์ป๊อปที่สนุกสนานฟังเพลิน ที่ส่งพวกเขาให้ดังไปทั่ว เพราะนอกจากจะติดชาร์ตอันดับสูงๆแล้ว มันยังฮิตในหมู่เด็กวัยรุ่นแนวๆอีกด้วย เพราะมันไม่เหมือนกับเพลงจากวงอื่นๆในช่วงนั้นเลย ถ้าจะมีใกล้เคียงบ้างก็แค่วงรุ่นพี่อย่าง The Shins เท่านั้น และด้วยความแหวกแนวและความเจ๋งของซิงเกิ้ลต่างๆ ทำให้ชื่อของพวกเขาเป็นที่รู้จักและสื่อเริ่มพูดถึงพวกเขามากขึ้นเรื่อยๆ ขนาดที่ Spin ยังยกให้พวกเขาเป็นวงที่มาแรงที่สุดในปี 2008 เลยทีเดียว
เมื่ออัลบั้มแรกที่ใช้ชื่อเดียวกับวงออกมา พวกเขาก็ได้รับคำชมไปทั่ว นอกจากมันจะทำอันดับที่ได้ในชาร์ตได้แล้ว มันยังได้รับคำชมจากทั่วสารทิศ ซิงเกิ้ลถัดมาอย่าง Oxford Comma ที่เอาเรื่องไวยากรณ์ภาษามาเทียบได้อย่างน่าตลกเป็นอย่างมาก และมันยังติดหูอย่างลืมไม่ลงด้วยเสียงออร์แกนอีกต่างหาก อีกซิงเกิ้ลที่ชื่อเรียกยากคือ Cape Cod Kwassa Kwassa คือเพลงหนุงหนิงๆ น่ารักๆ เจือกลิ่นของกลองชาวเผ่าแอฟริกา ผสมกับเสียงกีตาร์ที่แจมมาเป็นจังหวะๆ แถมยังพูดถึง Peter Gabriel ในเพลงอีกด้วย นอกจากซิงเกิ้ลเด่นๆแล้วเพลงอื่นอย่าง Boston ที่แสนสนุกก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน เช่นเดียวกับเพลง Walcott ที่แค่ฟังครั้งเดียวก็ลืมลง แถมใครจะคิดว่าเพลงเกี่ยวกับคนชื่อ Walcott มันจะเจ๋งขนาดนี้
และด้วยความยอดเยี่ยมของมัน ทำให้อัลบั้มแรกของพวกเขาติดอันดับยอดเยี่ยมจากหลายๆสถาบันและกลายเป็นวงหน้าใหม่อันดับหนึ่งของอเมริกาไป แม้พวกเขาจะแหวกแนวไปจากวงอื่น แต่วงเด็กเรียนวงนี้สร้างที่ยืนในวงการให้กับตัวเองได้อย่างงดงามจริงๆ
และปีที่แล้ว พวกเขาก็เริ่มการกลับมาด้วยการออกซิงเกิ้ล Cousins นำทาง และมันยังคงความยอดเยี่ยมไว้เหมือนเดิมด้วยจังหวะสนุกๆเร็วๆ ตามด้วยจังหวะกลองที่สับไม่ยั้งพอๆกับโรนัลโด้ และตามมาด้วยอัลบั้มที่สอง Contra ในปีนี้ มันไม่เกี่ยวกับเกมในตำนาน แต่มันมาจากเพลง I Think UR a Contra ที่เอามาจากเพลงของ The Clash อีกที และมันก็เต็มไปด้วยเพลงเจ๋งไม่แพ้อัลบั้มก่อน Horchata ที่เหมือนกับการเดินทางฟังเพลงไปทั่วกาฬทวีป และยังไม่ลืมความหนุงหนิงในเพลง California English ส่วน Diplomat’s Son ก็มีกลิ่นของเรกเก้เจือมาอย่างน่าสนใจ ส่วนเพลงที่เด่นที่สุดสำหรับผมคือ Giving Up The Gun ที่จังหวะโครมครามได้สะใจ แต่ตัวเพลงกลับเนียนนุ่มนวลทั้งเพราะทั้งติดหูจริงๆครับ และแน่นอนว่าผลงานชุดที่สองของพวกเขาก็จะได้รับคำชมไม่ต่างจากชุดแรกแน่นอน
แม้วงการเพลงร๊อคจะเต็มไปด้วยหนุ่มมาดเท่ แต่ถ้าตั้งใจจริง แม้จะเป็นเด็กเนิร์ด ก็ได้รับคำชมแน่นอนครับ
1 comment:
เจ๋งครับ ชอบ
ขำตรงที่พวก press เมืองไทยบอกว่าชื่ออัลบั้มมาจากเกม Contra 55
Post a Comment