Monday, July 1, 2013

Bastille–Bad Blood

ถึงชื่อจะฟังแล้วนึกถึงประเทศฝรั่งเศส แต่จริงๆแล้ว Bastille คือวงน้องใหม่จากลอนดอน ประเทศอังกฤษ กถึงประเทศฝรั่งเศส (ผมนึกถึงคุกดัง) รอบนี้เลยขอเสนอสองวงใหม่ที่ได้ฟังแล้วเห็นว่าน่าสนมาให้ฟังกันครับ

Bastille

ซึ่งกำลังเก็บเกี่ยวความสำเร็จจากเพลงดัง Pompeii จากอัลบั้มเปิดตัว Bad Blood

จุดเริ่มต้นของ Bastille คือโปรเจ็คต์งานเดี่ยวของ Dan Smith (แดน ร้องนำ คีย์บอร์ด) แต่เขาก็เปลี่ยนใจ ดึงเพื่อนมาร่วมวงเพื่อความสมบูรณ์ คือ Kyle Simmons (ไคล์ คีย์บอร์ด) Will Farquarson (วิล เบส) และ Chris Wood (คริส กลอง) ซึ่งชื่อวงก็มาจากวันบาสติลล์ หรือวันเริ่มต้นของการปฏิวัติฝรั่งเศส และเป็นวันเกิดของแดนด้วย พวกเขาเริ่งกิจกรรรมดนตรีกันในปี 2010 โดยเริ่มทำเพลงและปล่อยของบนเน็ต กับผ่านตราแผ่นเสียงอินดี้ แต่มันก็เป็นที่ฮือฮา จนกระทั่งพวกเขาได้โอกาสไปเล่นในเทศกาลใหญ่อย่าง Glastonbury กับ Isle of Wight ในปีถัดมาเลยทีเดียว แค่เริ่มต้นไม่นานก็เหมือนว่าอนาคตของพวกเขาจะสดใสแล้ว

ในที่สุดพวกเขาก็ถูกค่าย Virgin ดึงตัวเข้าสังกัด และออกซิงเกิ้ลแรกอย่างเป็นทางการนั่นคือ Overjoyed ในปี 2012 เพลงซินธ์พ๊อพที่เด่นด้วยเสียงเปียโนที่คลอคู่ไปกับบีตอีเล็กโทรนิกส์ ผสมด้วยเสียงร้องแบบครวญตามแนวทางของ Morissey คล้ายกับวง Hurts ที่ค่อยๆไล่เรียงอารณ์ของเพลงขึ้นไป ทำให้มันกลายเป็นซิงเกิ้ลที่โดดเด่นและได้รับคำชมจากสื่อหลายสถาบัน

และพวกเขาก็ตามติดความสำเร็จของตัวเองด้วยซิงเกิ้ลที่สอง Bad Blood ที่หนักด้วยเสียงสังเคราะห์มากขึ้นกว่าเดิม จังหวะให้เราพอได้โยกตัวตามแบบเนิบๆ และมีท่อนคอรัสติดหูให้ร้องโหว่ โหว่ โว้ ตามได้ง่ายๆ คล้ายๆกับฟังเพลงของ Imagine Dragons อยู่ และนี่ก็เป็นเพลงแรกของพวกเขาที่ติดชาร์ตในเกาะอังกฤษ ตามด้วยซิงเกิ้ลที่ 3 Flaw (ไม่อยู่ในอัลบั้ม) ซึ่งมันขึ้นไปถึงอันดับท็อป 40 เลยทีเดียว

แต่เป็นซิงเกิ้ลที่สี่ Pompeii ที่ส่งให้พวกเขาเป็นที่รู้จักกันไปทั่ว มันเริ่มต้นด้วยเสียงโห่ร้องอย่าอลังการ ก่อนที่จะตัดไปเป็นจังหวะเพลงพ๊อพที่ฟังสบายๆ พร้อมกับท่อนฮุคที่ฟังติดหู เสียงโห่ร้องยังตามกลับมาในท่อนฮุคแอบให้เราคิดถึง The Arcade Fire ได้นิดๆ และด้วยความพ๊อพติดหูของมัน ทำให้มันสามารถไต่ขึ้นไปถึงอันดับ 2 บนชาร์ตเพลงเลยทีเดียว แน่นอนว่า ทุกคนต้องหันมาจับตามองพวกเขา

และอัลบั้มเต็ม Bad Blood ก็ออกมาตามหลังในสัปดาห์ถัดจากนั้น และมันยิ่งโดดเด่นมากขึ้นไปอีก เพราะมันขึ้นไปถึงอันดับหนึ่งของชาร์ตอัลบั้มเลยทีเดียว แน่นอนว่า นอกจาก Flaw แล้ว ทั้งสามซิ้งเกิ้ลเด่นก็อยู่ในอัลบั้ม แต่นอกจากนั้น มันก็ยังมีเพลงที่ฟังได้เพลินๆอีกหลายเพลง เช่น Laura Palmer ที่อลังการคล้ายๆกับ Coldplay ที่ทำเพลงซินธ์พ๊อพ รวมไปถึงเพลงโปรดของผมอย่าง Weight Of Living, Pt. II ที่ชวนให้ออกมาเต้นได้เพลินๆแบบที่ Friendly Fires ทั้งอัลบั้มฟังได้ติดหูสบายมาก

Bad Blood คืองานเปิดตัวที่สร้างชื่อให้กับ Bastille ซึ่งถือว่าทำออกมาได้ดีมาก ถ้าจะถามว่ามีข้อเสียตรงไหน ก็คงเป็นจุดที่ว่าขาดความเป็นตัวของตัวเองไปหน่อย คิดว่าถ้าชุดหน้าคงจะจับแนวทางได้ชัดเจนกว่านี้ครับ

No comments: