Saturday, November 20, 2010

The Charlatans Live in BKK รอมานาน มันโคตรๆ

Technorati Tags: ,

หลังจากที่ผมเกริ่นไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วถึงการจะมาเปิดคอนเสิร์ตในไทยของวง The Charlatans ในที่สุด วันที่วงเล่นจริงๆก็มาถึงแล้วครับ และก็เป้นวันที่ผมและรวมถึงหลายๆคนรอคอยมานานอย่างแน่นอนครับ

เริ่มต้นความตื่นเต้นจากวันแถลงข่าว ที่ทางวงออกมาอย่างพร้อมหน้ากันในวันที่ 18 พย. ที่โรงแรมเรดิสัน ซึ่งแม้จะเป็นช่วงสั้นๆ ก็เห็นได้ว่าวงค่อนข้างสนุกและตื่นเต้นกับการมาเยือนประเทศไทยในครั้งนี้ น่าเสียดายที่ Jon Brookes มือกลองของวงไม่สามารถเดินทางมาด้วย (ไม่ทราบสาเหตุครับ) แต่ทางวงก็ได้ Pete Salisbury มือกลองจาก The Verve มาเล่นให้แทนครับ วันต่อมา ผมได้สัมภาษณ์ทางวงด้วย เดี๋ยวถ้าแกะเทปเสร็จ และที่ผมอัดไว้ไม่มีปัญหา ก็คงจะได้อ่านกันสัปดาห์หน้าครับ

หลังจากงมหาทางไปนครินทร์เทียเตอร์ เพราะผมไม่เคยไปมาก่อน และฝ่ารถติดแบบโคตรๆกว่าชั่วโมงกว่า ก็มาเจอจนได้ เป็นฮอลล์ที่แปลกดีครับ เหมือนเป็นพื้นที่ไว้จัดคอนเสิร์ตชั่วคราว แต่ขนาดก็กำลังดี ไม่ใหญ่ไม่เล็กเกินไป คนเพียบครับ เท่าที่ดูก็มีต่างชาติเกือบ 70% ของคนที่เขามาดูครับ

วงแรกที่เริ่มเล่นก่อนคือวง The Standards วงลูกครึ่งไทยอังกฤษ (อังกฤษ 2 ไทย 3) ที่ผมได้ซีดีมาแล้ว แต่ยังไม่ได้ฟัง ขึ้นมาเล่น น่าตกใจที่ แม้จะเป็นวงที่ตั้งในไทย แต่ผมว่าคุณภาพเข้าขั้นใช้ได้เลยทีเดียวกันครับ พวกเขาทำเพลงร๊อคผสมนิวเวฟที่โจ๊ะเอาเรื่อง เสียงคีย์บอร์ดช่วยให้วงนี้มีกลิ่นที่ต่างออกไปจากวงอื่นครับ ฟังดูอินเตอร์ใช้ได้เหมือนกัน น่าเสียดายที่ตลาดวงการเพลงไทยอาจจะยังไม่พร้อมสำหรับพวกเขาก็ได้ เพราะไม่น่าจะใช่แนวที่วัยรุ่นไทยชอบ แต่นักฟังเพลงน่าจะรักกันได้ไม่ยากครับ

IMG_6959

และวงต่อมาที่ขึ้นเล่นคือ Abuse The Youth ที่ผมเคยดูพวกเขามาก่อนแล้ว และยังเป็นวงที่เล่นดนตรีได้มันเหมือนเดิม จุดด้อยน่าจะเป็นนักร้องนำที่เสียงยังไม่โหดพอที่จะเล่นแนวแหกปาก บางที การร้องแบบวง Ash หรือ Weezer น่าจะเหมาะกับเขามากกว่าก็เป็นได้ และครั้งนี้ วงมีเซอร์ไพรซ์คือ พวกเขาเล่นเพลงที่เป็นภาษาไทยด้วยครับ คาดว่าน่าจะเป็นเพลง คืนสุดท้ายของแสงไฟ ซิงเกิ้ลล่าสุดของพวกเขา โดยรวมก็มันใช้ได้ครับ

IMG_7000

และหลังจากรอมานาน The Charlatans ก็ขึ้นเล่นซะทีครับ ผมได้โอกาสไปถ่ายรูปหน้าเวที เลยทำให้ได้รูปที่พอใช้ได้ แม้จะเป็นกล้องที่ไม่ได้ฉลาดมากอย่าง G9 พวกเขาเริ่มต้นด้วยเพลง Then ที่จากอัลบั้มใหม่ (ที่วางขายครั้งแรกในงานนี้ครับ) เพลงแรก แฟนอาจจะยังไม่คุ้น แต่เพลงอินโทรสอง Weirdo ขึ้นมาปุ๊บ แฟนรุ่นเก๋า (รวมทั้งผม) เฮกันหมดครับ เพราะมันคือหนึ่งในเพลงดังพวกเขาเลยทีเดียว และตามมาด้วยเพลง Can’t Get Out of Bed ที่แฟนเพลงสาวๆชอบกันเหลือเกิน เฮกันทั้งฮออล์ครับ

IMG_7024

ถึงตรงนี้ สิ่งหนึ่งที่ผมคิดคือ ทำไม Tim ดูเหมือน Ian Brown เอามากๆ ทั้งหน้าตา ทรงผม นี่ถ้าเปลี่ยนท่าควงไมค์ของทิม เป็นท่าลิงของ Ian คงเหมือนกันมากๆ เพลงต่อมาที่พวกเขาเล่นคือ Blackened Blue Eyes เพลงดังรุ่นเก่า ก่อนจะคั่นด้วย Smash The System เพลงใหม่ แล้วค่อยกลับมาที่ You’re So Pretty – We’re So Pretty กับ One to Another ที่แฟนพันธุ์แท้ร้องตามกันได้อย่างเพลิดเพลินครับ และอีกเพลงคือ My Beautiful Friend แล้วก็เป็นสามเพลงใหม่ครับ นั่นคือ Oh! Vanity จากชุดก่อน แล้วก็ My Foolish Pride และ Intimacy เล่นเอาแฟนเพลงงงๆเหมือนกัน แต่เมื่อ The Misbegotten กลับมา คนก็เฮกันอีกรอบครับ ดูเหมือนพวกเขาจัดลิสต์มาเอาใจแฟนจริงๆครับ

IMG_7169_resize

และบรรยากาศมาพีคสุดเมื่ออินโทรของเพลงสร้างชื่ออย่าง The Only One I Know ฮอลล์แทบแตกครับ แถวหน้าที่ผมอยู่ ทั้งเต้น ทั้งร้องตาม แล้วเซิร์ฟกันอย่างเมามัน ได้เหงื่อแล้วครับ และเมื่อพวกเขาตามมาด้วยเพลง North Country Boy คนก็ยิ่งโยกอย่างเมามันยิ่งกว่าเดิมครับ โคตรสนุก นี่แหละครับ ปรสบการณ์ที่ไม่สามารถดาวน์โหลดได้จากที่ไหน มันต้องมาเองครับ พวกเขาปิดท้ายด้วย This is the End จาก You Cross My Path ครับ

IMG_7160_resize

และพวกเขาก็กลับมาอีกครั้งในช่วงอังกอร์กับเพลง Love is Ending ที่เป็นเพลงใหม่เหมือนกัน และปิดท้ายด้วย Sproston Green เพลงเก่าจาก Some Friendly ที่ท้ายเพลง แจมกันอย่างเมามันจริงๆครับ เรียกเสียงเฮได้เยอะมากก่อนที่จะจบการแสดงที่ตรงนั้น

เรียกได้ว่าเป็นคอนเสิร์ตที่โคตรมัน และคุ้มเงินมากๆครับ พวกเขาใส่กันแบบไม่มียั้งจริงๆ เล่นเอาวงรุ่นน้องน่าจะอายได้เลยครับ เสียดายที่ขาดเพลง Love is the Key ไป ไม่งั้นคงจะเติมได้เต็มจริงๆครับ แต่เท่านี้ ก็มันเหงื่อซกแล้วครับ หวังว่าปีหน้าจะมีโปรโมเตอร์ใจดี เอาของแบบนี้มาให้ได้เฮกันอีกนะครับ

No comments: