Monday, July 5, 2010

From Bloc Party to Kele ทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลัง

Technorati Tags: ,,

งานครั้งนี้ถ้าคนที่ติดตามผมมานานอาจจะเรียกว่าเป็นงานรีไซเคิ่ลก็ได้ครับ เพราะผมคงต้องอขไปหยิบงานเก่าที่เคยเขียนเกี่ยวกับ Bloc Party มาก่อนที่จะเขียนถึงงานเดี่ยวของ Kele นักร้องนำของวงครับ

Bloc Party ประกอบด้วย Kele Okereke (เคเล่ ร้องนำและกีตาร์) Russell Lissack (รัซเซล กีตาร์) Gordon Moakes (กอร์ดอน เบส) และ Matt Tong (แมท กลอง) พวกเขาเริ่มจากส่งงานเพลงเดโมไปเรื่อย จนไปเข้าตาดีเจชื่อดัง จนได้แรงหนุนจนกลายเป็นสัญญากับค่าย Wichita โดยเพลงที่ทำให้พวกเขาได้สัญญาคือเพลง She’s Hearing Voices ที่เป็นเพลงร๊อคที่สมารถเต้นไปตามได้ได้รับอิทธิพลจาก She’s Lost Control ของ Joy Division33442_3

พวกเขาก็ได้ออกอัลบั้มแรกที่ชื่อ Silent Alarm ออกมาในปี 2005 และกลายเป็นอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จทั้งในแง่คำชมและยอดขาย มันเป็นผลงานจากความพยายามของทางวง บวกกับการโปรดิวซ์ของPaul Epworth นอกจากสองซิงเกิ้ลก่อนหน้านี้แล้ว Silent Alarm ยังอัดแน่นไปด้วยเพลงเจ๋งๆอย่างเช่น Like Eating Glass ที่เนื้อเพลงชวนหดหู่กลับผสานกับเพลงเร็วได้อย่างน่าประหลาด Helicopter ที่เป็นเหมือนเพลงเต้นบอลรูมสำหรับเด็กแนว และ This Modern Love ที่แสนหวาน Silent Alarm ได้ส่งให้พวกเขากลายเป็นวงแถวหน้าของวงการอินดี้ และมันยังได้รางวัลอัลบั้มยอดเยี่ยมแห่งปีของ NME หลังจากนั้นพวกเขายังออกซิงเกิ้ลที่ไม่ได้รวมอยู่ในอัลบั้มเวอร์ชั่นแรก นั่นคือ Two More Years ที่เพราะไม่แพ้กัน โดยเฉพาะท่อนคอรัสที่เหมือนทั้งวงช่วยกันกระซิบลงในไมค์อย่างละเมียดละไม

หลังจากซุ่มทำงานพวกเขาก็กลับมากับอัลบั้มที่2 ชื่อ A Weekend in the City ที่แม้มันจะยังเป็นอัลบั้มที่อัดแน่นไปด้วยเพลงเร็วๆมันเหมือนเดิม แต่โทนของเพลงกลับมืดหม่นกว่าเดิม ให้ความรู้สึกไม่ต่างจากปกอัลบั้มที่ทำให้คุณรู้สึกว่าแม้จะอยู่ในเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยแสงสี แต่คุณก็โดดเดี่ยวอยู่ ซิงเกิ้ลแรกอย่าง The Prayer ก็มีการแทรกเสียงคนสวดมนต์อยู่ตลอด Where Is Home ก็เป็นเพลงที่ถามคำถามที่น่าเศร้าที่สุด แต่ I Still Remember ก็ทำให้เราเห็นความหวังอันสวยงามอยู่ แต่เพลงเด่นสุดในอัลบั้มคงเป็น Hunting for Witches ซิงเกิ้ลที่2 ที่ยอดเยี่ยมในแบบของพวกเขาจริงๆkele

หลังจากความสำเร็จในระดับน่าพอใจของอัลบั้มที่ 2 พวกเขาก็ได้ออกซิงเกิ้ลชิมลาง Flux ที่เรียกอย่างนั้นเพราะว่าKeleอยากลองขยายขอบข่ายแนวเพลงบ้าง แม้สมาชิกคนอื่นไม่เห็นด้วย แต่ Flux ก็ได้กลายเป็นเพลงอีเล็กโทรนิกส์ แดนซ์อย่างเต็มตัว และมันก็ได้รับการตอบรับจากแฟนเพลงเป็นอย่างดี แต่มันก็เป็นเหมือนรอยร้าวแรกของวง

และ Flux ก็ส่งอิทธิพลมาถึง อัลบั้มชุดที่สาม Intimacy ในปี 2008 ที่แม้พวกเขาจะบอกว่ามีความมืดหม่นของชุดที่สอง และความดิบของชุดแรก แต่สิ่งที่โดดเด่นมากคือ ซาวนด์อิเล็กโทรนิกส์ที่เข้มข้นมากขึ้นกว่าเดิม ตั้งแต่ซิงเกิ้ลแรกอย่าง Mercury ที่โครมครามไปด้วยเสียงสังเคราะห์สารพัด เช่นเดียวกับเพลงอื่นในอัลบั้มที่แม้จะเป็นเพลงร๊อคก็มีการวางเรียบเรียงคล้ายเพลงเต้นรำมากกว่า เช่น One Month Off หรือ Zepherus แต่ก็ยังมีเพลงร๊อคในแบบที่พวกเขาถนัดอย่าง Trojan Horses หรือ Halo อยู่ ส่วนเพลงอย่าง Ion Square ก็ชวนให้เรานึกไปถึง เพลง Two More Years ได้ แต่สิ่งที่เกิดหลังจากนั้นคือ ควมเงียบที่น่ากลัว

Kele เริ่มหมดความสนใจที่มีต่อวงการเพลงอินดี้ เพาะเขารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับมัน มันจึงไม่น่าตื่นเต้นอีกต่อไป แต่เขาหันไปให้ความสนใจกับดนตรีเต้นรำ เพราะมันมีความหลากหลายกว่ามาก และนั่นก็เป็นเหตุที่ทำให้เขาเริ่มอัดเพลงของตัวเองตั้งแต่ยังอยู่กับวง และเมื่อทัวร์จบลง Bloc Party ก็หยุดกิจกรรมทั้งหมด แต่ต่างคนก็ต่างไปทางใครทางมัน Kele จึงตัดสินใจออกงานเดี่ยวของเขา The Boxer ออกมาMy-Photos-Kele-1

และมันก็เป็นงานที่ทำให้แฟนต้องอ้าปากค้าง เนื่องจากเขาทิ้งกีตาร์ไปเพื่อทำเพลงเฮาส์ แม้จะมี Flux เป็นเสียงเตือน แต่พวกเขาก็คงคาดไม่ถึงว่าจะเป็นขนาดนี้ Tenderoni ซิงเกิ้ลแรกคือเพลงเฮาส์เต็มรูปแบบชั้นดี ที่แฟนคงต้องยอมให้อภัย เพลงเปิดอัลบั้ม Walk Tall ก็โครมครามด้วยบีตและเสียงสังเคราะห์ทั้งหลาย และมันก็กลายเป็นอัลบั้มเพลงเต้นรำไปแบบเต็มตัว หากจะมีเพลงที่มีกลิ่นของ Bloc Party อยู่บ้าง ก็คงจะเป็น Unholy Thoughts ที่ยังมีกลิ่นของเพลงร๊อคอยู่บ้าง

มันคงต้องอาศัยความกล้าอย่างมากที่จะทิ้งสิ่งที่สร้างความสำเร็จให้กับคุณ และหันไปหาสิ่งใหม่อย่างเต็มตัว และพร้อมจะรับคำวิจารณ์ทั้งหมด และ Kele เลือกเส้นทางเดินนั้น แม้เขาจะยอมรับว่าเขาคิดถึงเพื่อนร่วมวง แต่เขาก็ต้องการทำผลงานเพลงของตัวเอง ต้องคอยดูกันต่อไปว่า เส้นทางของเขาและ Bloc Party จะเป็นอย่างไรต่อไป

No comments: