ในวงการเพลงอังกฤษ แต่ละปีก็มีศิลปินใหม่เกิดขึ้นมากมาย เรียกได้ว่าเป็นวงการที่มีการแข่งขันกันสูงมาก แต่ก็น่าสนใจที่ว่า แม้จะมีการแข่งขันกันสูงแค่ไหน แต่ก็มีพื้นที่สำหรับศิลปินสาวมากด้วยฝีมือเป็นจำนวนมาก และปีนี้ก็มีอีกหนึ่งรายที่กลายเป็นดีวาคนใหม่ของอังกฤษไปเรียบร้อยแล้ว เธอคือ FKA Twigs
FKA Twigs มีชื่อจริงว่า Tahliah Barnett เกิดและโตขึ้นมาในแถบบ้านนอกของ Gloucestershire ประเทศอังกฤษ พ่อแท้ๆ ของเธอเป็นนักเต้นแจ๊ซชาวจาไมกา แต่ได้หย่ากับแม่ของเธอตั้งแต่เธอยังเด็ก แม่ของเธอก็มีเชื้อสายอังกฤษผสมสเปน และเป็นนักเต้นเช่นเดียวกัน การเป็นลูกผสมในเขตบ้านนอกของประเทศอังกฤษก็เป็นเรื่องที่ค่อนข้างแปลก เธอเป็นลูกผสมคนเดียวในโรงรียนคาธอลิกเอกชนที่เธอได้เรียนด้วยทุนการศึกษาเพราะว่าครอบครัวของเธอยากจน
แต่ความสนใจเรื่องงานศิลปะก็คงส่งกันมาตามเชื้อสายครับ ระหว่างเป็นนักเรียนเธอก็เรียนเต้นบัลเลต์ไปพร้อมกับอัดเพลงที่ตัวเองร้องในสมาคมเยาวชนจาไมกา และเริ่มแต่งเพลงเองโดยเรียกตัวเองว่า Twigs ซึ่งมีทีมาจากการที่เธอสามารถหักข้อตัวเองให้เป็นเสียงดังได้
เมื่ออายุ 17 เธอก็ตัดสินใจเอาจริงกับการเป็นนักเต้นรำ ด้วยการย้ายไปลอนดอนและทำงานเป็นบาร์เทนเดอร์ไปพร้อมกับเป็นนักเต้นแบ็คอัพ ซึ่งก็ค่อนข้างไปได้ดี เพราะเธอได้ไปเต้นใน MV ของศิลปินดังๆ ตั้งแต่ Kylie Minogue, Ed Sheeran, Taio Cruz จนกระทั่ง Jessie J แต่สุดท้ายเธอก็ค้นพบตัวเอง (โดยไม่ต้องเดินทางไปไหน) ว่าเธออยากจะทำงานเพลงมากกว่าที่จะเต้นเพียงอย่างเดียว ทำให้เธอเริ่มใช้เวลาในสตูดิโออัดเพลงมากขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อสั่งสมประสบการได้เพียงพอ เธอก็ออกงานชิ้นแรกด้วยตัวเอง ใช้ชื่อเรียบง่ายว่า EP1 ผ่านทางเว็บไซต์ Bandcamp ช่วงปลายปี 2012 ซึ่งประกอบด้วยเพลง 4 เพลง และเธอก็ทำ MV ให้กับเพลงทุกเพลง (ดังนั้นแม้จะหาแผ่นไม่ได้ ก็สามารถเปิดฟังใน Youtube ได้ครับ) แต่ละเพลงใน EP ชุดนี้ เป็นเหมือนเสียงที่มาจากอีกมิติหนึ่ง มันเหมือนกับการจับวงมินิมอลเรียบๆ แบบ The XX มาร่วมแจมกับวงทริปฮอพแบบ Portishead หรือ Massive Attack เพลงโปรดของผมคือ Ache ที่เย็นยะเยือก ด้วยเบสบวมๆ และเสียงสังเคราะห์ที่แทรกเข้ามาเป็นจังหวะราวกับงูค่อยๆ เลื้อยเข้ามา บวกกับเสียงร้องที่เหมือนไปอัดเสียงการเริงระบำของชนเผ่นในอเมซอนมา สร้างความเย็นยะเยือกในมิติของมันได้เป็นอย่างดีครับ
EP1 ทำให้เธอเริ่มเป็นที่สนใจของสื่อต่างๆ แต่ก็มีศิลปินที่อ้างว่าใช้ชื่อ Twigs อยู่ก่อนแล้ว ร้องเรียนให้เธอเปลี่ยนชื่อในวงการ เธอจึงเพิ่มคำว่า FKA ที่ย่อมาจาก Formerly Known As หรือ เคยเป็นที่รู้จักในนาม เข้าไปที่หน้าชื่อของเธอแทน
หนึ่งปีผ่านไป เธอออก EP2 ผ่านทางค่าย Young Turks ซึ่งก็มีสี่เพลงเช่นเคย ซึ่งแต่ละเพลงก็ยังคงเย็นยะเยือกเช่นเคย มันคืองานเพลงที่ได้จากการไปแอบอัดเสียงของเทพธิดาในป่าอันลึกลับที่ทั้งน่ากลัวแต่ก็งดงามในเวลาเดียวกัน Water Me คือตัวอย่างของการจัดวาง เสียง และ ช่องว่าง ออกมาได้อย่างลงตัว ก่อนที่จะไปพบกับ Ultraviolet ที่ถีบเราเข้าสู่ยุคที่จักรกลครองเมืองแทน
ด้วยความยอดเยี่ยมของ EP2 ทำให้ชื่อของเธอเป็นที่เลื่องลือในวงการเพลงมากยิงขึ้นกว่าเดิม เธอกลายเป็นชื่อที่สื่อเลือกให้ความสนใจ และยังถูกเสนอชื่อให้เป็น Sound of 2014 โดย BBC และไม่กี่เดือนผ่านไป EP2 ก็เป็นงานเพลงชิ้นแรกของเธอที่ได้ไปวางขายในฝั่งอเมริกาอีกด้วย
หลังจากเป็นที่จับตามองและมีหลายคนรอคอยผลงานของเธอมานาน เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เธอก็ได้โอกาสออกอัลบั้มเต็มเป็นครั้งแรก ซึ่งก็ยังใช้ชื่อที่เรียบง่ายเช่นเคยด้วย LP1
LP1 คือผลงานที่ได้จากการร่วมงานของเธอกับโปรดิวเซอร์มือดีทั้ง Paul Epworth (ผมเขียนชื่อคนนี้ในคอลัมน์เป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วเนี่ย) และ Dev Hynes อดีตวง Test-Icicles และ Emil Haynie ที่ร่มงานกับ Eminem ในอัลบั้ม Recovery มาร่วมโปรดิวซ์ให้
ซิงเกิ้ลเปิดตัวของมันคือ Two Weeks ที่ยังดำเนินตามความยอดเยี่ยมของทั้งสอง EP ก่อนหน้า มันคือการเล่นกับที่ว่างและเสียงอย่างงดงามและยอดเยี่ยม ฉุดให้เราเข้าไปอยู่ในโลกของเธอได้อย่างโงหัวไม่ขึ้น อีกเพลงเด่นที่ไม่ควรพลาดคือ Pendulum ที่มี Epworth โปรดิวซ์ให้ ซึ่งก็ไมเสียราคาโปรดิวเซอร์มือทองเลยครับ เพราะมันยอดเยี่ยมแบบไร้ที่ติจริงๆ จังหวะที่ค่อยๆ ไล่เรียงขึ้นมากราวกับเรากำลังได้ชมการสร้างตึกสูงเสียดฟ้าโดยค่อยๆ ประกอบอิฐทีล่ะก้อน โดยมีเสียงภูตพรายแห่งป่าใหญ่คอยกระซิบอยู่ข้างๆ หู แล้วยิ่งตามติดด้วยเพลง Video Girls นี่ฟังแล้วเล่นเอายะเยือกไปถึงสันหลังเลยครับ และถ้ายังต้องการความยะเยือกอีก ก็ต้องลอง Closer เพลงที่เหมือนจะเนิบนาบ แต่ถ้าปล่อยจินตนาการไปกับมันแล้ว ก็ราวกับกำลังฟังเสียงสวดในโบสถ์ที่ขั้วโลกเลยจริงๆ LP1 เต็มไปด้วยการจัดวางพื้นที่ของเสียงและที่ว่างได้อย่างลงตัว มันคือสัดส่วนเคมีที่ลงตัวที่สุดชิ้นหนึ่ง ตามที่ได้ว่าไว้ว่าเหมือนกับการให้ The XX มาร่วมแจมกับ Portishead และมีกลิ่นของ Flying Lotus อีกด้วย ไม่แปลกที่ด้วยสัดส่วนที่ลงตัวแบบนี้จะทำให้เธอกลายเป็นอีกหนึ่งศิลปินที่มาแรงที่สุดแห่งปี
นอกจากได้รับการยกย่องจากสื่อหลากหลายแล้ว เธอยังถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Mercury Prize ในปีนี้ แต่น่าเสียดายที่พลาดรางวัลไป แต่ตอนนี้เธอก็มาแรงแบบฉุดไม่อยู่แล้วล่ะครับ นอกจากจะลัคกี้อินเกมแล้ว เธอยังลัคกี้อินเลิฟด้วย เพราะตอนนี้เธอประกาศตัวว่ากำลังคบอยู่กับพ่อหนุ่ม โรเบิร์ต แพตตินสัน หรือพ่อแวมไพร์จาก Twilight ที่เพิ่งโดนนักแสดงร่วมหักอกหมาดๆ แหม่ เล่นเอามีคนอกหักไปเยอะเลย และต่อไปเราคงได้พบกับเธอมากขึ้นเรื่อยๆ ล่ะครับ เพราะตอนนี้เธอกลายเป็นดีวาคนใหม่ของวงการเพลงอังกฤษไปแล้ว
No comments:
Post a Comment