Monday, November 18, 2013

Coldrain สายหนักจากนาโกย่า

ตามที่เล่าไปเมื่อสัปดาห์ก่อนครับว่าผมเดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ญี่ปุ่นเกือบสัปดาห์ ภารกิจที่ว่าคือ ไปจัดงานแต่งงานที่ญี่ปุ่นครับ เป็นฝั่งเป็นฝาซะที แหม่ แล้วสถานที่ไปก็คือก็คือ จังหวัดกิฟุ บ้านของแฟนผม ซึ่งติดอยู่กับจังหวัดไอจิ ที่ผมไปเรียนที่นาโกย่า เมืองหลวงของจังหวัดเป็นเวลาหลายปี ซึ่งก็ได้แวะเดินเที่ยวเล่นในนาโกย่าก่อนกลับวันสองวัน ไปสัมผัสกับถิ่นเก่าที่เคยอยู่ในบรรยากาศลมเย็นของฤดูใบไม้ผลิ ก็เพลินๆดีนะครับ

coldrain

แน่นอนว่าด้วยความรักดนตรี สมัยที่อยู่นาโกย่า ผมก็เพลิดเพลินไปกับมิวสิคซีนในนาโกนย่า ไม่ว่าการจะไปดูคอนเสิร์ตวงดนตรีทั้งจากต่างประเทศและวงดนตรีท้องถิ่น ไปดูเทศกาลต่างๆที่มีดนตรีสดเล่น และรวมไปถึงการไปเที่ยวคลับต่างๆที่มีดีเจท้องถิ่นเปิดแผ่นอย่างเพลิดเพลิน แน่นอนว่า ด้วยความที่ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ท้องถิ่นสามารถแข่งกับเมืองหลวงได้ ศิลปินจากนาโกย่าหลายรายก็สามารถไปขายระดับประเทศได้ โดยเฉพาะในนาโกย่าที่ซีนฮิพฮอพจัดว่าเข้มข้นใช้ได้ มีศิลปินท้องถิ่นดังอย่าง Nobodyknows+ และ Home Made Kazoku เป็นตัวชูโรง แต่ที่จะมาแนะนำในวันนี้ ถึงจะมาจากนาโกย่า แต่ก็ไม่ใช่วงฮิพฮอพ แต่เป็นสายร๊อค โพสต์ฮาร์ดคอร์ ชื่อ Coldrain ที่ผมเพิ่งได้ฟังไม่นานนี้ แต่ติดใจมาก คิดว่าเด็ดไม่แพ้วงที่ดังในบ้านเราอย่าง One OK Rock แน่นอน

Coldrain คือวงที่เกิดขึ้นจากการรวมตัวของอดีตสมาชิกท้องถิ่นในนาโกย่า วง Aver ที่แตกวง แล้ว Masato (มาซาโตะ ร้องนำ) ลูกครึ่งญี่ปุ่นอเมริกันซึ่งรับหน้าที่แต่งเนื้อเพลงภาษาอังกฤษล้วนๆ กับ Katsuma (คัตซึมะ) มือกลอง ร่วมกันตั้งวงใหม่ โดยดึงเอา Y.K.C หรือ โยโคจิ มือกีตาร์, Sugi หรือ สุกิ มือกีตาร์อีกคน และ RxYxO หรือ เรียว มือเบส อดีตนักร้อง ทั้งสามคนมาจากวง Wheel of Life รวมเข้าเป็นวงใหม่ Coldrain แห่งนาโกย่าในปี 2007

ซึ่งแค่ในปีต่อมา พวกเขาก็ได้ออกผลงานซิงเกิ้ลแรกในฐานะวงเมเจอร์ (ข้ามขั้นไม่ต้องเป็นอินดี้เลย) โดยซิงเกิ้ลแรกของพวกเขาคือ Fiction เพลงโพสต์ฮาร์ดคอร์ๆที่แน่นด้วยเสียงกีตาร์ถล่มหนักไล่เรียงไปทั้งสองไลน์ แล้วก็รู้จักใช้ท่อนเบรกโทนเพลงให้เบาลงก่อนจะอัดหนังได้อย่างยอดเยี่ยม เสียงร้องภาษาอังกฤษของมาซาโตะก็เปล่งออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมทั้งท่อนสครีมที่แหกปากได้มันพองาม ท่าทางพวกเขาพร้อมติดเครื่องแล้ว

พอปี 2009 ซิงเกิ้ลที่สอง 8AM ก็ถูกนำไปใช้เป็นเพลงปิดอนิเมะเรื่อง ก้าวแรกสู่สังเวียน ซึ่งมันเป็นเพลงร๊อคสายอเมริกันที่ฟังง่าย คล้ายๆกับ Taking Back Sunday ไม่แปลกที่จะฮิตครับ แถมยังได้ไปเล่นในงาน Summer Sonic Festival อีกด้วย ก่อนที่จะออกงานอัลบั้มเต็มชุดแรกในช่วงปลายปี ซึ่งในอัลบั้มก็มากับเพลงร๊อคสายอเมริกันแบบที่เราคุ้นกันอยู่แล้ว ทำให้ฟังได้เพลิน แทบไม่รู้สึกเลยว่าเป็นวงญี่ปุ่น (ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องดีรึเปล่านะ) และมีเพลงเด่นอย่าง Counterfeits & Lies และ 24-7 ที่ฟังแล้วเพลินเหลือเกิน

coldrain-1

ปี 2010 พวกเขาออกมินิอัลบั้ม Nothing Lasts Forever ที่มีเพลงถูกนำไปใช้ในอนิเมะและเกมอีกแล้ว นั่นคือ We are not alone ที่อัดหนักรัวๆ ก่อนที่จะเบรกด้วยท่อนที่จังหวะเบาลงเหมาะกับการโยกตามอีก

ปีถัดมา พวกเขาก็จัดหนักกับอัลบั้ม The Enemy Inside ทีมีเพลงเด่นอย่าง New Fate ที่อัดหนักเหลือเกิน โดยเฉพาะท่อนรัวไปพร้อมกับกีตาร์นั้นทำให้ผมนึกไปถึงวงรักอย่าง Funeral for a Friend ได้ทันที ขณะที่ To Be Alive ที่ถูกตัดออกมาเป็นซิงเกิ้ลก็ยังทำให้เราอยากตะโกนแหกปากตามอย่างเมามัน ส่วนเพลง The Maze ก็ได้เสียงร้องรับเชิญจากเพื่อนร่วมวงการที่สลับแหกปากกับร้องตลอด เล่นเอานึกถึง FFAF อีกรอบล่ะครับ ไลน์กีตาร์เจ๋งๆกับกลองที่รัวขนาดนี้ มันได้ฟีลจริงๆ

เว้นไปนิดนึง พวกเขาก็ออกมินิอัลบั้มอีกครั้งชื่อ THROUGH CLARITY ซึ่งดึงเอา David Bendeth จากอังกฤษไปอัดเสียงถึงอเมริกา และมีเพลงเด่น Six Feet Under ที่โคตรรรรรรเจ๋งงงงงง เป็นเพลงโพสต์ฮาร์ดคอร์แบบที่ชอบมากๆ อัดหนัก มีท่อนพลิ้วงามๆ แล้วเบรกมาหนัก สับไม่ยั้ง เพลงนี้จะเรียกว่าเป็นเพลงที่ผมชอบที่สุดก็ว่าได้ครับ แม้จะเดินตามแพทเทิร์นไปหน่อย

url

ท่าทางพวกเขาจะชอบผลงานโปรดิวซ์ของเดวิดมากๆ เลยดึงมาโปรดิวซ์อัลบั้มใหม่ที่ออกในปีนี้อย่าง The Revelation ซึ่งก็ยังอัดหนักจัดไม่ยั้งเช่นเคย ไลน์เพลงต่างๆจึงเป็นโพสต์ฮาร์ดคอร์ที่หนักกว่างานเดิมๆ ไม่ว่าจะเพลงไตเติ้ลแทร็ค The Revelation ที่รัวไม่หยุด ส่วน The War is On ที่เปิดอัลบั้มนี่ก็เหมาะกับประกอบหนัง 300 จริงๆ เพลงของพวกเขานอกจากจะแน่นขึ้นแล้ว ด้วยการโปรดิวซ์และมิกซ์ดาวน์ทำให้เสียงออกมาได้อย่างเต็มไปด้วยรายละเอียด เนียนทุกขึ้น ไม่ควรพลาดจริงๆครับ

Coldrain น่าจะได้แฟนในต่างประเทศมากกว่านี้ เพราะเล่นเพลงเป็นภาษาอังกฤษด้วย แถมเพลงก็เจ๋งไม่น้อย ถ้าเพิ่มกิมมิคกว่านี้อาจจะดังตาม Crossfaith วงจากโอซาก้าก็ได้นะครับ และพวกเขาก็ได้แสดงให้เห็นว่าวงจากต่างจังหวัดก็สามารถดังไปทั่วญี่ปุ่นได้ จริงๆมีวงจากนาโกย่าอีกวง คือ Shark Ethic ที่หนักเอาเรื่อง แต่ยังไม่ดังมาก ถ้ามีโอกาสจะเขียนอีกครับ เพราะวงนี้คือวงของเพื่อนสมัยเรียนผมเอง แฮ่

No comments: