Monday, April 4, 2011

Green Day – Awesome as FxxK

เมื่อเดือนมกราคมปีที่แล้ว ผมมีประสบการณ์ที่ดีมากๆกับคอนเสิร์ต Green Day ที่จัดขึ้นที่เมืองไทย เพราะว่า นอกจากจะได้ฟังเพลงมันๆ สนุกๆหลายต่อหลายเพลง และโยกจนเหงื่อซกแล้ว พวกเขายังเอนเตอร์เทนคนดูได้อย่างยอดเยี่ยมมาก มีกิมมิคเจ๋งๆตลอดงาน จนเปรยกับแฟนว่า ถ้ามีดีวีดีบันทึกคอนเสิร์ตนี่ รับรองว่าซื้อแน่ และความต้องการนั้นก็เป็นความจริง แม้จะช้าไปหน่อยก็เถอะ แต่ก็ดีครับGreen Day - Awesome As Fuck 2011 Album Cover

Awesome as Fxxk (แหม่ ไม่อยากเซ็นเซอร์เลย) คืองานที่บันทึกการแสดงสดในทัวร์ 21st Century Breakdown ของทางวงที่ไปเล่นทั่วโลก โดยพวกเขาเลือกเพลงเด่นๆที่เล่นตามที่ต่างๆมาอยู่ในอัลบั้ม ทำให้เราได้สัมผัสกับบรรยากาศของแฟนๆจากทั่วโลก ตั้งแต่ไซตามะในญี่ปุ่น ยันมอนทรีลในแคนาดาครับ ซึ่งฟังไป ก็พยายามนึกถึงบรรยากาศที่เคยสัมผัส แล้วก็โยกคนเดียว เพลินดีเหมือนกัน

แต่ทีเด็ดยังไม่หมดครับ มีดีวีดีแสดงสดติดมาด้วยครับ ซึ่งเป็นคอนเสิร์ตที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่นครับ เล่นเอาผมงงหน่อยว่า ทำไมเลือกญี่ปุ่น ตอน Bullet in the Bible พวกเขาก็เลือกคอนเสิร์ตที่อังกฤษแทนที่จะเป็นอเมริกา ทำให้หลายคนดูแคลนว่า เพราะพวกเสียแฟนขวาจัดในอเมริกาไปเยอะ เพราะเล่นด่าบุชซะขนาดนั้น ทำให้คนอเมริกันก็คงไม่อยากด่าคนในชาติว่า American Idiot มาก แต่ครั้งนี้ พวกเขาเลือกที่ญี่ปุ่น ซึ่งพอดูๆไป คงเป็นเพราะว่า พวกเขาคงต้องการเล่นกับคนที่ใช้ภาษาไม่เหมือนกันบ้าง และบรรยากาศที่ออกมาก็คล้ายๆกับที่ไทยครับ คือแม้จะไม่ได้ร้องตามแบบเก็บทุกเม็ด แต่แฟนก็มีอารมณ์ร่วม และมันกับเพลงอย่างเต็มที่ครับ

แต่ถึงจะเป็นทัวร์เดียวกัน แต่รูปแบบจะต่างกันหน่อยครับ เพราะที่ไทย จะอาศัยฉากหลังบอกชัดว่า จะเป็นองค์ไหน 21st Century Breakdown หรือ America Idiot หรืองานเพลงก่อนหน้านั้น ที่ครั้งนี้ที่ญี่ปุ่น ออกจะเป็นคละๆกันไปซะมากกว่าครับ ไม่ได้แบ่งชัดเจน หรือเล่าเรื่องเหมือนที่ไทย แต่ก็จับบรรยากาศความสนุกบนเวทีมาได้อย่างยอดเยี่ยมครับ ทั้งการแสดงที่เปี่ยมไปด้วยพลัง การพาแฟนเพลงขึ้นไปร้องบนเวที พลุไฟ เอฟเฟคต์ มันทุกเม็ด แถมยังมีคัทของแฟนเพลงที่วิ่งแข่งกันไปจองพื้นที่ เขียนโปสเตอร์ให้วง ดูแล้วสนุกครับ รายชื่อเพลงก็เป็นเพลงดังๆเกือบทั้งหมด อาจจะขาดบางเพลงไปบ้าง (American Idiot และ Wake Me Up When September Ends) แต่ก็มีเพลงที่ไม่ได้เล่นที่ไทยเหมือนกันอย่าง Viva La Gloria (ที่ผมอยากฟังเหลือเกิน) กับ My Generation คัฟเวอร์ The Who แต่โดยรวมแล้ว ก็ได้บรรยากาศดีจริงๆครับ ขนาดที่ฟัง 21 Guns แล้ว น้ำตาแทบคลอครับ

No comments: