Monday, February 11, 2013

LUNA SEA: The End of the Dream Live in Bangkok

Technorati Tags: ,

หลังจากที่ BEC Tero ได้จุดกระแสความมันของดนตรี J-Rock ในบ้านเราให้กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้งด้วยคอนเสิร์ตของ X-Japan และ L’arc en Ciel ไปสองปีติดแล้ว งวดนี้ก็เป็นกระบี่เล่มที่ 3 จากญี่ปุ่นเช่นกันคือ Luna Sea วง J-Rock ชื่อดังในบ้านเราอีกวงนึง และคงเป็นที่รอคอยของหลายๆท่าน

LUNA SEA_028

พอถึงวันงาน ก็ตกใจนิดนึงที่คนน้อยกว่าที่เคยเจอ ดูเหมือนกระแสจะไม่แรงเท่าสองวงที่มาก่อน แต่แฟนเพลงที่มาก็จัดได้ว่า จัดเต็ม เอาเรื่องเลย แต่ละคนแต่งตัวกันอย่างเต็มสูบ ทางวงคงปลื้มไม่น้อย แถมคนญี่ปุ่นก็เยอะเอาเรื่อง แต่ละคนคงดีใจที่มีโอกาสได้ดูวงโปรดของตัวเองในต่างแดน

พอเข้าฮอลก็นั่งเล่นฟังเพลงไปซะหน่อย ชอบตรงเพลงที่เปิดให้ฟังรอไปก่อนคือ Crystal Castles เพลินดี และพอเสียงเงียบ คนก็ฮืออา และลุกขึ้นมาพร้อมกัน จากนั้นก็เป็นอินโทรสั้นๆ ก่อนที่ทั้งวงจะปรากฏตัวพร้อมกับแสงที่เจิดจ้าจากไฟบนเวทีที่ฉายมาใส่คนดูเต็มๆ และวงก็เปิดด้วยเพลง Loveless ทันที ซึ่งบรรยากาศแบบลึกลับสุดเท่ในเพลงก็ทำให้แฟนเพลงกรี้ดกันสนั่นฮอลเลยทีเดียว ที่โดดเด่นสุด คงจะเป็น Sugizo ที่เล่นกีตาร์ 3 คอ ไม่รู้เอาแรงจากไหนมาแบกของหนักขนาดนั้น ได้ข่าวว่าเพิ่งหายเจ็บนี่นา

พอเริ่ม วงก็อัดต่อด้วยเพลง Déjàvu เพลงดังอีกเพลง ที่ฟังแล้วเหมือนพวกฮาร์ดคอร์พังค์มากๆ แล้วก็มีโชว์โซโล่กีตาร์ซักหน่อย ก่อนที่วงจะทักทายกับแฟนเพลงด้วยภาษาไทย (ตามสูตร) ก่อนที่คาวามูระจะตะโกนบอกว่า มาทำให้คืนนี้เป็นคืนที่เร่าร้อนที่สุดหันเถอะ และตามด้วยเพลงเร็วอย่าง G และต่อด้วยเพลงที่หลายๆคนคงคุ้นดีอย่าง End of Sorrow ที่พาร์ทกีตาร์ของทั้ง Sugizo และ Inoran โดดเด่นมากๆ ด้วยความที่ไม่เคยดู Luna Sea เล่นสดมาก่อน ผมเพิ่งสังเกตว่า กลองของชินยะจะเป็นตัวเดินเพลงเป็นหลัก แล้ว เบสกละกีตาร์ทั้งสองก็จะค่อยๆแทรกมาเป็นจังหวะเรื่อยๆ จึงมีจังหวะที่กลุ่มเครื่องสายหยุดเล่นแล้วทักทายแฟนๆเป็นระยะๆ แล้วกลองของชินยะก็แน่นดีจริงๆ ดูเพลนมากครับ จากนั้นพวกเขาก็ต่อด้วยเพลง True Blue เพลงที่หนักขึ้นมาอีกเพลงหนึ่ง

LUNA SEA_019

พอจบช่วง พวกเขาก็กล่าวสวัสดีกับแฟนเพลง (ทำไมไม่สวัสดีเมื่อช่วงก่อนนี้หว่า) แล้วประกาศจะเล่นเพลงใหม่ชื่อ Rouge ที่ทั้งหนักทั้งเร็ว คงสมใจแฟนๆหลายคนที่รอฟังอยู่ ก่อนที่จะตัดไปเพลงช้า Gravity ที่เป็นที่รู้จักกันดี ระหว่างเพลง คาวามูระก็มีถอดเสื้อนอกโชว์ความเซ็กซี่ให้แฟนเพลงได้กรี้ดสนั่น และพอจบเพลง Sugizo ก็ได้โอกาสโซโล่ไวโอลินโชว์ฝีมือ ในเพลง Providence ก่อนที่จะเข้าตัวเพลงที่บรรยากาศลึกลับแบบบาโรกเอามากๆ วังเวงดีครับ ก่อนที่จะปิดช่วงด้วยเพลง Moon เพลงนุ่มๆฟังง่ายๆอีกเพลงหนึ่ง

ระหว่างพักช่วง พวกเขาก็ทักทายแฟนๆอีกด้วยประโยคอย่าง ฉันรักคุณ คนไทยสวย แหม่ สาวๆก็กรี้ดสิครับ แล้วตบด้วยเพลง The End of Dream ที่พอจบเพลงแล้ว J ก็ได้โอกาสโซโล่เบสโชว์ ซึ่งเท่มากครับ เต็มไปด้วยพลังจริงๆ แอบคิดไปถึง Adam Clayton ของ U2 ได้เฉยเลย พอจบก็ต่อด้วยเพลง Storm อีกเพลงดัง ให้แฟนเพลงร้องตาม Kiss Me in the Storm แล้วตามด้วยการโซโล่กลองของชินยะ อดีตคนเล่นกลองอย่างผมก็กรี้ดสิครับ เพลงถัดมาคือ Desire (ผมไม่เคยฟังมาก่อน) และตามด้วย Rosier เพลงเร็วที่เล่นเอาคนเฮทั้งฮอล แถมมีทีเด็กตรง J มาคว้าไมค์ร้องด้วยนี่แหละ คนเฮกันตรึม และปิดท้ายด้วยเพลงพ๊อพร๊อคเพลงโปรดของผมอย่าง Tonight ที่ติดหูเอามากๆด้วยท่อน Kimi Dake no… คนร้องตามกันทั้งฮอลไม่มีพลาดครับ พวกเขาใส่เต็มสูบก่อนที่จะกลับเข้าไปหลังเวที

ยังครับ มันยังจบไม่ได้หรอก ยังไม่ได้เล่นเพลงเด่น พวกเขาจะกลับได้ยังไงกัน หลังจากรอซักระยะ พวกเขาก็กลับออกมาอีกทีพร้อมกับเครื่องแต่งตัวใหม่ แฟนเพลงก็กรี้ดกันอีกแล้ว เพราะพวกเขาเล่นเพลง I For You เพลงดังที่คิดว่าเป็นเพลงที่คนรู้จักมากที่สุดในบ้านเรา คาวามูระครวญเพลงไปพร้อมกับแฟนเพลงทั้งฮอลที่ร้องตามอย่างสุดซึ้ง แหม่ อุตส่าห์รอกันมานาน ก็ต้องซึ้งให้เต็มที่สิ พวกเขาพูดคุยกับแฟนเพลงอีกเล็กน้อยก่อนจะเข้าเพลง Believe อีกเพลงที่ผมรู้สึกว่าเหมือนเพลงฮาร์ดคอร์พังค์ที่ดีจริงๆ และปิดท้ายด้วยเพลง Wish เพลงแบบJ-Rockที่แม้จะเป็นเพลงเร็วแต่ไม่ขาดเมโลดี้ที่งดงามและบรรยากาศแบบให้ความหวัง ฟังแล้วก็ประทับใจดีจริงๆ พวกเขาจัดเต็มเพื่อเป็นการส่งท้ายแฟนๆอย่างประทับใจ

พอจบเพลง ทั้งวงก็มายืนรวมกันหน้าเวที Sugizo ก็ถ่ายรูปแฟนเพลงทั้งฮอลไว้ ก่อนที่จะเอาป้ายผ้าของงานมาถือกันและถ่ายรูปเก็บเป็นที่ระลึก รวมทั้ยังโยนนู่นโยนนี่ให้แฟนเพลงเยอะมาก ผมเกือบรับขวดน้ำที่กำลังจะกระแทกหัวคนข้างหน้าทัน แต่ได้แค่เกือบครับ และวงก็ค่อยๆทยอยออกไปหลังเวที จนเหลือ Sugizo ที่เล่นกับแฟนเพลงเป็นคนสุดท้าย น่ารักดีนะครับ ใส่ใจแฟนเพลงดี

เมื่อวง J-Rock ดังมาเยือนเมืองไทยถึง 3 วงแล้ว ก็ต้องคอยดูว่า ยักษ์ใหญ่อีกวงอย่าง Glay จะได้มาไทยด้วยรึเปล่า เพราะถ้ามา แฟนเพลงชาวไทยคงฟินเพราะได้ดูครบทุกวงแล้ว (อ้อ ลืม Gackt ไปคน) แต่เท่าที่ฟังๆดู มีคนอยากให้ Mr. Children มาเล่นเหมือนกัน โปรโมเตอร์สนใจกันมั้ยครับ อิอิ

No comments: