ตอนที่ท่านอ่านคอลัมน์นี้ เราคงทราบผลเลือกตั้งกันแล้วนะครับว่า ตกลงผลมันออกมาเป็นยังไง แดงทั้งแผ่นดินมั้ย หรือจะได้ฝาแฝดอินจันกลับมา หรือจะได้เฮียหูกางมาจิบไวน์ปรองดอง หรือจะได้เห็นเขียวทั้งแผ่นดินแทน ผมเองกำลังนั่งเขียนอยู่ ก็ไม่ทราบเหมือนกันครับว่าจะเป็นไง แต่ก็ขอบอกตามตรงว่าลุ้นสุดตัวเหมือนกันครับ ผมไม่คิดว่ามันจะเรียบร้อยได้ง่ายๆหรอกครับ แต่ผมคิดว่า อย่างน้อย การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นตัวบ่งชี้อะไรได้หลายๆอย่าง และเป็นมาตราฐานให้เรากันเองทราบว่า จริงๆแล้วเราคิดอย่างไรกันแน่ ก็หวังว่าทุกๆท่านจะทำใจ รับผลเลือกตั้งได้ แม้ไม่ได้คนที่รักหรือพรรคที่ชอบ และไม่ก่อปัญหาเพิ่มนะครับ ส่วนตัวผม วันเครียดๆแบบนี้ ผมเองก็คิดอยู่ว่าจะเขียนเรื่องอะไร พอดีมานั่งเปิด MV ใน Youtube ดู ก็เจอวงสุดฮาวงโปรดอย่าง The Lonely Island มาคลายความเครียดให้ เลยอยากเอามาเล่าสู่กันฟังครับ
บางทีเราจะเรียก The Lonely Island ว่าวงดนตรี ก็คงเรียกได้ไม่เต็มปากนัก เพราะจริงๆแล้ว พวกเขาน่าจะถูกเรียกว่านักแสดงตลกซะมากกว่า (นึกถึงเพลงกินตับเขาไว้) เพราะพวกเขาประจำอยู่ที่รายการ Saturday Night Live รายการตลกชื่อดังของอเมริกาที่สร้างดาราตลกรุ่นพี่มานับไม่ถ้วนอย่าง Adam Sandler หรือ Mike Myers และ The Lonely Island มีสมาชิกหลัก 3 คนคือ Adam Samberg (อดัม) Kiv Schaffer (คิฟ) และ Jorma Taccone (จอร์ม่า) ซึ่งพวกเขาเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่มัธยม และหลังจากพยายามไปแคสต์งาน พวกเขาก็ได้งานโอกาสที่รายการ SNL โดย Adam ถูกดึงเข้าไปก่อนในฐานะนักแสดง และเพื่อนอีกสองคนจึงถูกดึงตัวตามไปเป็นนักเขียน
พวกเขาเริ่มสร้างชื่อด้วยการถ่ายทำ MV เพลงฮาๆ ของตัวเองมาเปิดในรายการ โดยเริ่มต้นที่เพลง Lazy Sunday ที่เป็นเพลงแร๊พที่พยายามทำตัวเก๋ามาก แต่ร้องเกี่ยวกับเรื่องราวที่ไร้สาระและกิ๊กก๊อกแบบสุดๆ ก่อนที่จะตามมาด้วยเพลง Natalie’s Rap ที่ดังพอตัว
แต่เพลงที่น่าจะทำให้พวกเขาเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้นคือ Dick In A Box เพลงที่ได้ไอ้หนุ่ม Justin Timberlake มาร่วมร้อง เกี่ยวกับการเอิ่ม ตามชื่อเพลงน่ะครับ การเจาะกล่องแล้วเอาของใส่ลงไปเป็นของขวัญให้สาว คุณไม่เข้าใจภาษา คงจะนึกว่าเป็นเพลง R n B ยุค 90 ดีๆซักเพลง แต่ต้องลองดูวิดีโอเถอะครับ และเพลงนี้ก็กลายเป็นซิงเกิ้ลอย่างเป็นทางการของพวกเขาไปครับ
ซิงเกิ้ลต่อมา ทิ้งช่วงห่างสองปี มาออกในปี 2008 นั่นคือ Jizz In My Pants เพลงที่ดนตรีสุดเท่ห์ แต่เนื้อเพลงกับเกี่ยวกับหนุ่มๆที่สามารถ “เสร็จ” ได้กับทุกสิ่งทุกอย่าง ตั้งแต่บังเอิญจับมือสาว สาวมองตา นาฬิกาปลุกดัง ไปถึงลมเย็นพัดมา (อะไรมันจะขนาดนั้น)
แต่เพลงที่ทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จในวงกว้างคือ I’m on a Boat เพลงแร๊พโชว์พาวแบบทึ่มๆ ว่าได้นั่งเรือยอชท์ กลายเป็นเพลงดังที่ส่งให้พวกเขาได้เข้าชิงรางวัลแกรมมี่เลยทีเดียว (ใครเช็คอินบนเรือใน Four Square ก็จะได้เห็นเนื้อเพลงนี้ล่ะครับ)
ซิงเกิ้ลที่ 4 เพลง Like A Boss ก็ไม่มีอะไรนอกจากบอกว่าทำทุกอย่าง แบบบอสบอส เน้นฮาแบบไร้สาระ แต่กลับกลายเป็นวลีเด็ดมุขดังทางอินเตอร์เน็ตเลยทีเดียวครับ ลองไปเสิร์ชดูได้ ส่วนซิงเกิ้ลที่ 5 Boombox เป็นเพลงโปรดของผมเลยทีเดียว เพราะว่าได้พี่จูเลี่ยนแห่ง The Strokes มาร่วมครวญเพลงเอาฮา ว่า บูมบ๊อกซ์ สามารถเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้ในโลกนี้ นึกไม่ถึงว่าพี่แกจะยอมมาร้องเพลงไร้สาระแบบนี้ แต่ก็ฮาแบบสุดๆ และในที่สุด พวกเขาก็รวมเพลงฮาทั้งหลาย ใส่ในอัลบั้มแรก Incredibad ซึ่งออกวางขายในปี 2009
พวกเขาตามความสำเร็จด้วย I just Had Sex ซิงเกิ้ลแรกของอัลบั้มถัดมา เพลงนี้มา Akon มาร่วมร้องเพลงดีใจที่ได้ปั่มป๊ามสาวนั่นเองครับ จริงๆแล้ว เพลงมันดีนะครับ แต่เนื้อร้องนี่ ฮาแตก
หลังจากนั้น พวกเขายังคงปล่อยเพลงฮาๆตามมาอย่าง The Creep ที่ออกมาปล่อยมุขฮาเรื่องการทำตัวเลียนแบบเจ้าพ่อแห่งความน่าแหยะอย่าง John Waters หรือเพลง Jack Sparrow ที่ได้เจ้าพ่อแหบอย่าง Michael Bolton มาบ้าร้องเพลงเกี่ยวกับกับตันแจ๊ค ทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเนื้อเพลงหลักเลย หรือกระทั่งเพลงแสบๆอย่าง Mother Lover ที่ได้ Justin Timberlake มาร่วมงานอีกครั้ง เกี่ยวกับการสร้างสรรความสุขให้แม่ของเพื่อน (ไม่กล้าเขียนตรงๆ) และยังมีเพลงบ้าบออีกสารพัดครับ ลองไปหาฟังได้ในอัลบั้มที่สอง Turtleneck and Chain ที่ออกวางขายในปีนี้ครับ
และล่าสุด พวกเขาได้ Justin Timberlake มาร่วมงานในบทบาทเดิม โดยมีแขกที่ยิ่งใหญ่ระดับเบิ้มอีกคนคือ Lady Gaga มาเลยครับ กับเพลง 3 Ways (The Golden Rule) ที่เกี่ยวกับ เอิ่ม 2 ต่อ 1 น่ะครับ ฮาแบบไร้สาระสุดๆ
ที่ผมไล่เรียงมานี่ ลองไปเสิร์ชดูตาม Youtube เถอะครับ รับรอง ไม่พลาดได้ฮาแน่ๆครับ หวังว่าจะช่วยแก้เครียดหลังทราบผลเลือกตั้งได้นะครับทุกๆท่าน
No comments:
Post a Comment