19. Janelle Monae – The Archandroid งานชิ้นแรกของศิลปินสาวผิวสีวัย 25 ปีจากอเมริกาที่ต้องทำให้ผมทึงจากความเก๋าเกมเกินกว่าจะเชื่อว่าเธออายุเท่านั้นจริง The Archandroid คืองานที่ผสมผสานดนตรีหลากแนวเข้าด้วยกัน และขยำออกมาได้อย่างเท่เหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นเพลง โซล ฟังค์ รวมไปถึงร๊อค โดยเฉพาะเพลงประกอบภาพยนต์เก่าๆ บวกเขากับเนื้อเพลงแหวกแนว และยังได้ทรงผมกับท่าเต้นเท่ๆเข้ามาผสม ทำให้ได้อัลบั้มที่รียกได้ว่า Super Cool เลยทีเดียว แนะนำเพลง Tightrope (ดูวิดีโอด้วยก็ดี)
18. Chromeo – Business Casual งานเพลงแดนซ์ฟังค์ชุดที่สามจากคู่ดูโอจากแคนาดาที่ผมคิดว่า งานชุดนี้ พวกเขางัดเอาอาวุธทุกอย่างที่พวกเขาคิดได้ออกมาใช้กับงานชุดนี้ได้อย่างลงตัวเอามากครับ ทั้งเบสแบบฟังกี้ที่เร้าอารมณ์ ตัวโน๊ตที่พาไปถึงจุดสุดยอด และเสียงร้องที่แหบแต่มีเสน่ห์ แม้จะเป็นงานที่ป๊อปไปหน่อย แต่ผมว่ามันคืองานที่เหมาะกับการเริ่มต้นงานปาร์ตี้ ไม่ว่าจะบนฟลอร์หรือบนเตียง แนะนำ Night By Night และ When The Night Falls
17. Bullet for My Valentine – Fever ปีที่ผ่านมา ผมฟังงานเพลงหนักๆน้อยมากโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่งานชุดใหม่ของ BFMV จากเวลส์เป็นหนึ่งในงานที่ผมชื่นชอบ เพราะความหนักหน่วง และมันสะใจในระดับกำลังดีของวงนี้ พวกเขาทำเพลงเมทัลที่มีไลน์ดนตรีสวยๆให้ได้ฟังเพลงๆเสมอแบบไม่รกหูเกินไป ลงตัวครับ ฟังเวลาขับรถแล้วได้อารมณ์ เผลอแหกปากตามเป็นระยะๆ แนะนำ The Last Fight และ Your Betrayal
16. Big Boi – Sir Lucious Left Foot งานเดี่ยวชิ้นแรกของหนึ่งในสองสมาชิกของวงฮิปฮอปขั้นเทพอย่าง Outkast ที่แม้ว่ามันจะทำให้ผมเสียวกับอนาคตของ Outkast แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันคืออัลบั้มฮิปฮอปที่ยอดเยี่ยมไร้เทียมทาน และแสดงให้เห็นถึงแนวทางใหม่ๆของฮิปฮอปแบบที่สองคู่หูชอบทำให้เราได้ทึ่งอยู่เสมอ มันทะลวงความซ้ำซากจำเจของดนตรีฮิปฮอปในช่วงหลังได้อย่างงดงาม แนะนำ Follow Us, Shutterbugg และ Be Still
15. Manic Street Preachers – Postcards from a Young Man นี่ก็เป็นอีกวงที่นอนมาครับ งานของวงโปรดของผมที่ต้องบอกตรงๆว่า พวกเขาโคตรเก๋าเกมครับ อัลบั้มนี้แสดงให้เห็นถึงความเก๋าเกม และความทุ่มเททำงานอย่างหนักของพวกเขาได้เป็นอย่างดี แต่ละเพลงได้รับการแต่งออกมาอย่างลงตัว แม้จะไม่ก้าวร้าวเหมือนเดิม แต่พวกเขาก็ไว้ลายได้อย่างสวยงามครับ แนะนำ (It's Not War) Just The End Of Love กับ A Billion Balconies Facing The Sun ที่แอบทำให้นึกถึงงานเก่าๆ
14. Avengers in Sci-Fi – Dynamo งานเพลงชิ้นที่สามของวงจากญี่ปุ่นที่ผมแอบเชียร์มานาน และเป็นงานแรกกับต้นสังกัดเมเจอร์ซะที พวกเขาทำงานเพลงร๊อคที่ผสมกับอีเล็คโทรนิกส์หลุดโลกออกมาได้อย่างลงตัวครับ แม้จะได้บ้าขนาด Polysics แต่ก็ติดหูและชวนกระโดดไปมาได้อย่างสนุก หวังว่าจะดังเสียทีครับ แนะนำ Delight Slight Lightspeed และ Lovers On Mars
13. These New Puritans – Hidden งานเพลงอาร์ตร๊อคแหวกแนวชิ้นที่สองจากวงอังกฤษวงนี้ เป็นงานที่ทั้งมืดหม่น ลึกลับ อลังการ และหลุดโลกอย่างไม่เกรงใจใครครับ บรรยากาศความหลอนที่อบอวลทั่วอัลบั้มน่าจะมาจากผมการโปรดิวซ์ของ Graham Sutton อดีต Bark Psychosis มันคืองานที่ทำให้เสียวสันหลังได้เป็นอย่างดี แนะนำ We Want War
12. Daft Punk – Tron OST ปกติผมไม่ค่อยเลือกงานซาวแทร๊คหนังมาเท่าไหร่นัก นอกจากมันจะเลิศเลอจริงๆ และมันก็ยอดเยี่ยมจริงๆครับ การเอาDaft Punk มาทำงานเพลงให้กับหนังเรื่องนี้คือแนวคิดที่ฉลาดกว่าความฉลาดของหนังของดิสนีย์หลายเรื่องมารวมกันอีกครับ เพลงเด่นคือ Derezzed แน่นอน เพราะเป็นเพลงเดียวที่เต้นได้อย่างเมามัน แต่จริงๆแล้ว เพลงบรรเลงทั้งหลายนั้นทำหน้าที่สร้างบรรยากาศให้หนังได้เยี่ยมมากครับ
11. Two Door Cinema Club – Tourist History ผลงานชินแรกของวงที่เอาเพลงแดนซ์มาผสมอินดี้จากอังกฤษ และเป็นงานที่ผสมได้เมามันมากครับ แต่ละเพลงโจ๊ะมากๆครับ ทั้งเสียงกีตาร์ที่ไล่เรียงไปกับจังหวะได้อย่างสนุกและติดหู เล่นเอาเด็กอินดี้อยากลงไปดิ้นบนฟลอร์อย่างสนุกจริงๆ อีกอย่างที่ผมชอบมากคือ เสียงร้องนุ่มๆที่ฟังเพลินครับ แนะนำ I Can Talk และ Undercover Martyn
10. Flying Lotus – Cosmogramma งานอัลบั้มเพลงแดนซ์ที่เหมือนกับหลุดมาจากอีกโลกนึง มันเต็มไปด้วยจังหวะแปลกๆ เสียงประกอบพิลึก และบรรยากาศแจ๊ซกรุ่นกลิ่นควันบุหรี่ คำที่ผมจะเอามาใช้กับงานชิ้นนี้ได้เหมาะที่สุดคือ Eclectic ครับ รวมเสียงแห่งความมหัศจรรย์ไว้เต็มแผ่นจริงๆ แนะนำ ...And the World Laughs with You
No comments:
Post a Comment