หลังจากอู้มานาน ผมก็ได้เวลาเลือกอัลบั้มโปรด 30 แผ่นของผมจากปีที่แล้ว ซึ่งก็เลือกเอาตามความชอบส่วนตัวนั่นแหละครับ ใครเห็นด้วยไม่เห็นด้วยอย่างไร ก็แสดงความเห็นมาได้นะครับ
30. Yeasayer – Odd Blood งานชิ้นที่สองของวงร๊อคแนวทดลองจากอเมริกาที่สร้างความสุขทุกครั้งที่ได้ยิน ด้วยบรรยากาศที่มีความโดดเด่นเฉพาะตัวเป็นอย่างมาก ฟังไปแล้วบางที่ก็เหมือนกับการจับเราไปอยู่ในโลกของรายการทีวียุค ’80 กับโลกของเกม 8 บิต กับสีสันที่ฉูดฉาด แนะนำเพลง O.N.E กับ Madder Red
29. Nas & Damian Marley – Distance Relatives การร่วมงานของเจ้าพ่อฮิปฮอปแห่งนิวยอร์ก กับทายาทของราชันแห่งเรกเก้ กลายมาเป็นงานเพลงที่ผสมดนตรีสองแนวออกมาได้อย่างลงตัว และยังผสมเสน่ห์เฉพาะตัวของศิลปินทั้งสองคนออกมาได้อย่างไร้ที่ติ แค่เพลงเปิดอย่าง As We Enter ก็โชว์ความเก๋าได้เป็นอย่างดี และยังมี Dispear ที่โครมครามเอาเรื่อง
28. Warpaint – The Fool งานเพลงที่ผมพึ่งเขียนถึงไปได้ไม่นาน งานอัลบั้มแรกจากสี่สาวมาดเท่จากอเมริกา ที่นำพาเราไปสู่โลกอันลึกลับ ที่เต็มไปด้วยเสียงกระซิบที่เราไม่ทราบว่าเป็นของนางฟ้าหรือแม่มดกันแน่ รวมไปถึงเสียงกีตาร์ที่ล่องลอยอยู่ในมวลอากาศอย่างงดงาม เพลงที่ขอแนะนำเลยคือ Undertow ครับ
27. Crystal Castles – Crystal Castles II งานชุดที่สองจากดูโอหลุดโลก ที่ทำเพลงเหมือนกับการปฏิวัติของเครื่องเกม 8 บิต ทั้งหลาย แม้มันจะเป็นเพลงแดนซ์อย่างชัดเจน แต่กลับมีความกบฏของพังค์อยู่อบอวลไปทั่ว มันทั้งดิบ และกร้านอย่างงดงาม ตัวอย่างคือเพลง Doe Deer ที่เหมือนสงครามในสมองของหุ่นยนต์ และยังมี Baptism ที่ถาโถมโจมตีเราด้วยคลื่นแห่งเสียงอย่างไม่หยุดหย่อน
26. We are Scientists – Barbara งานเพลงชุดที่ 4 ของวงที่มักจะมีมุกมาให้เราได้ฮาเสมอ สำหรับผมแล้ว งานชุดนี้เป็นงานที่ลงตัวที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยทำมา ทั้งโทนเพลง ทั้งบรรยากาศ เยี่ยมหาที่ติดไม่ได้ครับ แต่ละเพลงโจ๊ะได้ใจวัยรุ่นเหลือเกิน แม้ซิงเกิ้ลอย่าง Nice Guys และ Rules Don’t Stop จะเด่น แต่เพลง Jack & Ginger นั้น ไร้เทียมทานด้วยการประสานงานที่ลงตัวของทุกอย่างครับ
25. MGMT – Congratulations งานเพลงชิ้นที่สองของวงที่เคยคว้าที่หนึ่งในชาร์ตของผมมาแล้ว โทนเพลงแตกต่างไปจากชุดแรกมากครับ เครื่องสังเคราะห์ลดลง บรรยากาศเพลงจะหนักไปทางไซคีเดลิคยุคเก่าในแบบของ Syd Barrett ซะมากกว่า และเป็นอีกก้าวที่พวกเขาได้เติบโตมากขึ้นครับ แนะนำ Flash Delirium
24. Mumford and Sons – Sigh No More อันนี้ออกจะโกงหน่อย เพราะออกขายตั้งแต่ปี2009 แต่ผมยึดเอาออกขายที่อเมริกาปี 2010 แทน งานชิ้นแรกของวง British Folk Rock ที่โดดเด่นเหลือเกิน นอกจากบรรยากาศแบบอังกฤษจ๋าแล้ว เพลงของพวกเขายังเต็มไปด้วยรายละเอียดและเนื้อเพลงที่คมคายอีกหนึ่งงานเปิดตัวคลาสสิกสุดๆครับ แนะนำ Winter Winds, Little Lion Man และ The Cave
23. Klaxons – Surfing the Void อีกหนึ่งวงที่เคยคว้าอันดับหนึ่งของผมมาแล้ว พวกเขาหายไปนานมากก่อนที่จะกลับมาอย่างน่าตกใจ ด้วยการเลือกโปรดิวเซอร์ที่ไม่น่าจะเข้ากันได้อย่าง Ross Robinson ซึ่งก็ทำให้แนวเพลงแหวงไปจากเดิม ไม่ใช่ขายของเก่ากิน เหมือนพวกเขาทะเยานไปยังดาวดวงอื่น ไม่แดนซ์จ๋า เพลงมีความหนักหน่วงขึ้น บรรยากาศที่หลอนหลุดโลก ยังไม่นับ MV สุดสยองอีกด้วย แนะนำเพลง Echoes ไร้ที่ติดครับ
22. iwrestledabearonce – It’s All Happening งานเพลงของวงเมทัลแนวทดลองวงใหม่จากอลาบาม่า ที่เหมือนกับให้ Enter Shikari ซดกระทิงแดงโหลนึง แล้วไปแจมกับ The Locust และ Horse The Band กลายเป็นงานที่อัดแบบหนักเต็มสูบระดับเละเทะยับเยิน และยังเบรกกันด้วยช่วงหนุงๆหนิงๆ แถมยังมีเพลงเต้นรำเข้ามาเสริมด้วย ที่สำคัญ นักร้องหญิงคนนี้สำรากได้ถึงใจมากครับ แนะนำเพลง Danger In The Manger และ Dubstep EP ด้วยครับ
21. Ikonika – Contact, Love, Want, Have ปีที่แล้ว หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า Dubstep มันจะ In สุดๆ ซึ่งพอได้ฟังอัลบั้มนี้แล้วก็ไม่แปลกใจครับ เพราะมันคืองานเพลงที่ผสมผสานออกมาได้อย่างลงตัว ทั้งเบสบวมๆทึมๆ กับจังหวะที่รวดเร็ว กับเสียงซินธ์สารพัดที่รายล้อม และยังมีโครงสร้างเพลงแบบที่ไม่ยึดรูปแบบเดิมๆเลย แนะนำเพลง Fish, Yoshimitsu และ Millie
20. Hurts – Happiness งานเพลงชิ้นแรกของศิลปินซินธ์ป๊อปคู่หูจากแมนเชสเตอร์ พวกเขาทำเพลงป๊อปสมบูรณ์แบบออกมาจนทำให้ผมต้องนึกไปถึงรุ่นพี่อย่าง Human League เลยทีเดียว ทุกเพลงได้รับการแต่งขึ้นมาอย่างละเอียดไม่ต่างกับการทอผ้าไหม บวกเข้ากับเสียงร้องที่แสนงดงาม ก็ได้งานเพลงป๊อปที่ไร้เทียมทานอีกชิ้นหนึ่งของปีที่แล้ว แนะนำ Wonderful Life, Stay และ Blood, Tears & Gold
No comments:
Post a Comment