Friday, December 11, 2009

Slipknot: ยังจะหนักได้อีก

Technorati Tags: ,

ช่วงปลายปีแบบนี้ บ้านเราอากาศเดี๋ยวหนาวเดี๋ยวร้อน เล่นเอาสงสัยว่ามันจะฤดูไหนกันแน่ และมักจะเป็นช่วงที่น่าเบื่อ เนื่องจากคนจะเริ่มนิ่งรอปีใหม่ ทำให้ธุรกิจค่อนข้างจะนิ่งตามไปด้วย แต่ก็พอจะมีของที่ทำให้สดชื่นขึ้นมาได้หน่อยคือ แผ่นของ Slipknot ที่ส่งมาที่สำนักงานของผม เลยได้โยกหัวรำลึกอดีตหน่อย 

slipknot-02

Slipknot กำเนิดขึ้นในที่ๆมีแต่ข้าวโพดอย่างรัฐ Iowa สหรัฐอเมริกา โดยตอนแรก สองแกนนำของวง Shawn Carahan (ชอว์น เครื่องเคาะ) และ Paul Gray (พอล เบส) ตั้งวงชื่อ Painface ขึ้นกับเพื่อน แล้วก็ได้ Joey Jordison (โจอี้ กลอง) ตามเข้ามาร่วมวง จนตอนที่ออกเดโมแรก พวกเขาเปลี่ยนชื่อเป็น Slipknot แทน ก็เริ่มทดลองเครื่องแบบที่จะกลายมาเป็นเอกลักษณ์ของพวกเขาในภายหลัง เมื่อมือกีตาร์ลาออกไป พวกเขาได้ Craig Jones (เครก แซมเปิ้ล) มาแทน ก่อนที่จะย้ายไปเป็นมือแซมเปิ้ลแทนเมื่อวงได้ Mick Thomson (มิค กีตาร์) มาทำหน้าที่ขุนขวานแทน และออกผลงานใต้ดินชุดแรกชื่อ Mate. Feed. Kill. Repeat. และเริ่มตั้งหมายเลขประจำตัวและสวมชุดหมีและหน้ากากตั้งแต่บัดนั้น

ต่อมาพวกก็ดึง Corey Taylor (คอรีย์ ร้องนำ) เข้ามาแทนนักร้องเดิม ตามด้วย Sid Wilson (ซิด ดีเจ) และ Chris Fehn (คริส เครื่องเคาะ) เข้ามาเสริมความแกร่ง และโปรดิวเซอร์มือทองอย่างRoss Robinson ก็ถูกดึงมาช่วยงาน และเมื่อมือกีตาร์คนเก่าออกไป พวกเขาก็ได้ Jim Root (จิม กีตาร์) มาทำหน้าที่แทน และในที่สุด Slipknot 9 คนก็ลงตัวแล้ว

slipknot 

ในที่สุด พวกเขาก็ได้ฤกษ์ออกอัลบั้มเต็มชุดแรกที่ใช้ชื่อเดียวกับชื่อวงในปี 1999 ซึ่งเป็นช่วงที่กระแส Nu-Metal กำลังพีค และ Slipknot ก็คือการเปิดตัวอย่างงดงามของพวกเขา มันคือความหนักหน่วงที่มาในรูปแบบดนตรี ทุกอย่างมันผสมออกมาได้อย่างลงตัว เสียงร้องสำรอก กีตาร์จากนรก เบสที่จูนสายต่ำ กลองถล่มแบบเดธเมทัล เครื่องเคาะเสริมช่วยความแน่น เสียงแซมเปิ้ลสยอง และเทิร์นเทเบิ้ลที่แทรกมาเป็นจังหวะ ด้วยความที่ขุมกำลังแน่นไปทุกตำแหน่ง ทำให้พวกเขาสามารถสร้างความโกลาหลผ่านเสียงดนตรีได้อย่างที่วงอื่นได้แต่อิจฉา มันคือดนตรีที่เกิดมาเพื่อสร้างความสะใจอย่างแท้จริง เพลงที่แนะนำก็คงไม่พลาดสองซิงเกิ้ล Spit it Out และ Wait and Bleed ที่มันสะใจไม่คลายจนถึงทุกวันนี้ มันกลายเป็นอัลบั้มเปิดตัวระดับตำนานและก็เป็นอัลบั้ม Platinum อัลบั้มแรกของค่าย Roadrunners ของ Ross Robinson ด้วย และเพื่อฉลองครบรอบสิบปี ค่าย Warner ก็ได้ออกเวอร์ชั่นพิเศษเพิ่มเพลงเด็ดอย่าง Wait And Bleed (Terry Date Mix) และ Spit It Out (Hyper Version) บวกกับ DVD รวม MV แสดงสด และเบื้องหลังอีกด้วย โคตรคุ้มครับ

slipknot-pictures

พวกเขาไม่ได้ดื่มด่ำกับความสำเร็จอย่างเมามัน แต่พวกเขาเลือกออกทัวร์อย่างหนักเพื่อสร้างชื่อเสียง และนั่นเป็นความคิดที่ถูกเพราะว่า ดนตรีของพวกเขาจะถูกปลดปล่อยอย่างเต็มที่ก็เมื่อมันถูกเล่นสดๆ ผู้คนต่างเฝ้ารอผลงานใหม่ของพวกเขา และก็ไม่ผิดหวังเมื่ออัลบั้มที่สอง Iowa ออกวางขายในปี 2001 เพราะแค่เพลง People=Shit ก็ทำให้เรามันแบบหาชิบไม่เจอได้แล้ว มันคือการทำลายล้างที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดีจริงๆ ส่วนถ้าใครต้องการฟีลแบบ Wait and Bleed ก็ต้องไปหา My Plague และ Left Behind ที่ชวนโยกอย่างสะใจ ส่วน Heretic Anthem ก็เหมือน White Zombie หลังล่อกระทิงแดงไปสามขวด Iowa คืองานเพลงที่เหนือกว่าอัลบั้มแรก มันหนักกว่า มืดกว่า และสะใจกว่า ไม่แปลกอะไรที่มันได้รับคำชมจากทั่วสารทิศและติดอันดับอัลบั้มยอดเยี่ยมของหลายสื่อ

หลังจากอัลบั้มที่สอง สมาชิกบางคนก็ออกไปทำผลงานของตัวเองอย่าง Stone Sour หรือ Murderdolls จนทำให้แฟนๆกลัวว่าพวกเขาจะไม่กลับมาอีกแล้ว แต่พวกเขาก็ไม่ได้ทำให้เราผิดหวัง เมื่อหันไปร่วมงานกับ Rick Rubin โปรดิวเซอร์ระดับตำนาน ก่อนจะออกมาเป็น Vol. 3: (The Subliminal Verses) ในปี 2004 ที่ทำให้แฟนเพลงต้องสยบต่อหน้าพวกเขา เพราะมันขยายขอบเขตความสามารถของพวกเขาให้กว้างออกไปกว่าเดิมจริงๆ แต่ละเพลงได้รับการเรียบเรียงให้ละเอียดมากขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชั้น Before I Forget คือตัวอย่างของเพลงเมทัลที่ดีเอามากๆ Duality ก็ชวนให้เราบ้าคลั่งได้อีกครั้ง ส่วน Pulse Of The Maggots ก็คือเพลงที่ชวนให้เราแหกปากตามในคอนเสิร์ตจริงๆ ส่วน Vermilion แม้จะช้า แต่ก็หนักหน่วงได้ใจจริงๆ

slipknot_worldstage1

และหลังจากเงียบไปสี่ปีอย่างน่าใจหาย พวกเขาก็กลับมาพร้อมกับ All Hope Is Gone อัลบั้มชุดที่ 4 ในปี 2008 โดยถากทางมาก่อนด้วย All Hope Is Gone ที่ สับสับสับและสับแบบไม่ยั้งจริงๆ ต่อด้วย Psychosocial ที่เป็นเพลงชวนเรากระทืบตามจริงๆ Dead Memories ก็เห็นได้ชัดว่าเรียบเรียงมาเป็นอย่างดีเช่นเดียวกับ Gematria (The Killing Name) และมันก็กลายเป็นอัลบั้มแรกของพวกเขาที่ครองอันดับหนึ่งของ Billboard ได้อย่างสง่างาม

ปัจจุบันนอกจากออกทัวร์แล้ว พวกเขากำลังซุ่มทำผลงานใหม่อยู่ ระหว่างรอ ก็เอาอัลบั้ม Slipknot ชุดฉลองครบ 10 ปีมาชมและฟังเพื่อความสะใจก่อนก็ได้ครับ


No comments: