Monday, February 6, 2012

Ed Sheeran

Technorati Tags: ,

วงการเพลงอินดี้อังกฤษในช่วงปีที่ผ่าน กระแสแนวเพลง Folk Revival กำลังเป็นที่นิยม โดยที่ศิลปินอย่าง Mumford and Sons หรือ Laura Marling ก็หยิบเอาเพลงโฟลค์แบบอังกฤษมาผสมผสานกับแนวดนตรีอื่นและสร้างเสียงใหม่ๆขึ้นมา และอีกคนหนึ่งที่ผสมผสานเพลงโฟลค์เข้ากับเพลงแนวอื่นได้อนย่างน่าสนใจคือหนุ่มน้อยศิลปินหน้าใหม่ไฟแรงแห่งเกาะอังกฤษ Ed Sheeran

ไอ้หนุ่มผมแดงคนนี้ เกิดที่ฮาลิแฟกซ์ แต่ไปโตที่ซัฟฟโลค์ในตะวันออกของอังกฤษ นอกจากจะเริ่มเล่นดนตรีแต่เล็กแล้ว เขาก็ได้รับอิทธิพลจากครอบครัวที่สนใจในการฟังเพลงเป็นอย่างมาก กระทั่งพาเขาไปดู Damian Rice ตั้งแต่เขายังเล็กๆ

Ed Sheeran PNG

และด้วยความสนใจในดนตรี ทำให้เขาเริ่มแต่งเพลงเอง และออก EP แรกตั้งแต่อายุแค่ 14 ชื่อ The Orange EP และตามด้วยอัลบั้มเต็มอีกสองอัลบั้มตั้งแต่อายุยังไม่ครบ 18 แต่ก็ด้วยความมุ่งมั่นในดนตรีของเขา ทำให้เขาตัดสินใจย้ายมาอยู่ลอนดอนและเล่นดนตรีตามที่ตัวเองต้องการแม้จะมีคนดูเพียงแค่ไม่กี่คนก็ตามที หลังจากนั้นเขาก็พยายามออก EP ซึ่งแนวเพลงของเขาก็เป็นการผสมเพลงโฟลค์กับเพลงฮิปฮอปและ Grime ที่เป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นอังกฤษ (จะว่าคล้ายกับ Plan B ยุคแรกหน่อยๆก็ว่าได้) ทำให้เขาได้ไปออกทัวร์ร่วมกับศิลปินฮิปฮอปผิวขาวอย่าง Just Jack และด้วยความขยันโพสวิดีโอของเขา ทำให้ได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลงของเอลตัน จอห์น และ ไปร่วมทัวร์กับศิลปินฮิปฮอปที่ดังกว่าเดิมอย่าง Example หลังจากไปผจญภัยในอเมริกา งานเพลงของเขาบน Youtube ก็ได้รับความนิยมมากขึ้นบวกกับแรงเชียร์แบบปากต่อปากจากเซเล็บมั้งหลายเช่น ริโอ เฟอร์ดินานด์ ทำให้เขาเป็นที่รู้จักมากขึ้นกว่าเดิม และในช่วงนั้นเขาก็ได้ออก EP เพิ่มอีก ซึ่งถ้าได้ลองฟัง ก็จะได้สังผัสถึงแนวเพลงที่ผสมผสานเสียกีตาร์โปร่งเข้ากับจังหวะโจ๊ะๆสนุกๆเป็นอย่างดี บวกเขากับเสียงร้องที่บางครั้งก็นุ่มนวล บางครั้งก็เร่งเร้า จนกลายเป็นสเน่ห์ของตัวเขาไป

และในปี 2011 ก็เป็นปีทองของเขาจริงๆ เขาเริ่มได้ออกรายการทีวี โดยได้เล่นเพลง The A Team ในรายการของ Jools Holland และเมื่อเขาปล่อยเพลง The A Team ออกมาเป็นซิงเกิ้ลแบบดิจิตอลดาวน์โหลด กลายเป็นซิงเกิ้ลแรกจากอัลบั้มเปิดตัวของเขาที่ใช้ชื่อว่า + และมันก็ไปได้สวยถึงกับขึ้นอันดับ 3 ในชาร์ตเพลงอังกฤษเลยทีเดียว และกลายเป็นซิงเกิ้ลเปิดตัวที่ทำยอดขายสูงสุดในเกาะอังกฤษในปีที่ผ่านมา และยังได้ไปร่วมแสดงในงาน Glastonbury อีกด้วย

ไม่แปลกอะไรที่ The A Team จะเป็นเพลงยอดนิยม เพราะนอกจากมันจะเป็นเพลงโปลค์ป๊อปฟังสบายๆแล้ เสียงร้องที่อบอุ่นของ Ed ยังช่วยสร้างอารมณ์ให้กับเพลงได้เป็นอย่างดี ยังไม่นับการเรียงร้อยภาษาที่เฉียบคมของเขาอีกด้วย จนกลายเป็นสเน่ห์ของเขาไป แม้ตัวเพลงจะพูดถึงสังคมที่เหลวแหลก

EdSheeran1Small

และเมื่ออัลบั้มเต็ม + ออกวางแผง ก็กลายเป็นอัลบั้มขายดีถึงกับขึ้นอันดับ 1 ในอังกฤษเลย เขาอัดเพลงในแนวที่เขาถนัดเข้าไปเต็มอัลบั้มเลยทีเดียวครับ ไม่ว่าจะเป็น You Need Me, I Don’t Need You เพลงที่จังหวะรวดเร็วและจ๊ากจาก EP ก่อนหน้านี้ให้เราได้สนุกตาม การผสมผสานทั้งเพลงโฟลค์ ฮิปฮอปและการ Beatboxing กลายเป็นสไตล์ส่วนตัวของเขาไปจริงๆ หลายเพลงในอัลบั้มนี้ทำออกมาได้ดีมากจริงๆครับ รวมไปถึงเพลงช้าอย่าง Kiss Me ที่น่าจะทำให้สาวๆละลายได้ และอีกซิงเกิ้ลหนึ่ง Lego House ก็โดดเด่นไม่น้อยครับ ก่อนจะปิดท้ายด้วยเพลงที่นิ้มนวลอย่าง Give Me Love อีกที และที่เจ๋งอีกอย่างคือ ฉบับที่ขายในไทยเป็นแบบ Deluxe มีเพลงแถมอีก 4 เพลงให้จุใจไปเลยครับ

ขนาดอายุแค่20ปี Ed Sheeran ก็ทำเพลงออกมาได้ขนาดนี้แล้ว เล่นเอาอยากรู้เลยว่า ยิ่งถ้าสั่งสมประสบการณ์ไปอีกแล้ว เขาจะสามารถผลิตผลงานออกมาได้มีคุณภาพแค่ไหน

เสริมท้ายอีกนิดครับ พอดีได้แผ่นสองแผ่นมานั่งดูและฟังเพลินๆ คือ Adele – Live at the Royal Albert Hall งานแสดงสดของสาวเสียงดีที่ฮอล์ในตำนาน กับ Kylie Minogue – Aphrodite Les Folies Live in London บันทึกการแสดงสดจากทัวร์ชุดเดียวกับที่มาจัดที่เมืองไทยที่ผ่านมานั่นล่ะครับ ทั้งสองชุดทำออกมาได้ดีมากๆ น่าเก็บ และไม่ใช่แค่ DVD ครับ ยังมีซีดีบันทึกการแสดงสดมาให้ฟังอีกด้วย คุ้มเอาเรื่องเลยล่ะครับ ขอแนะนำทั้งสองแผ่นครับ โดยเฉพาะของป้าไคลี่ เพราะอลังการสุดๆจริงๆครับ

No comments: