หลังจากคนกรุงพารานอยด์เรื่องน้ำท่วมไประยะหนึ่ง ในที่สุด ทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติราวกับไม่เคยเกิดอะไรขึ้น แม้รอบนอกยังมีน้ำท่วมอยู่ แต่ก็เหมือนกับหลายๆคนจะลืมๆไปแล้ว อย่าพึ่งรีบลืมครับ วันที่ 2 ธค. นี้มีคอนเสิร์ตดีๆ ก็สนุกกับคอนเสิร์ตแล้วก็กลับไปหาทางช่วยคนที่ยังลำบากต่อไปก่อนดีกว่าครับ
ตอนแรกที่ได้ยินข่าวว่า Mogwai จะมา ก็ดีใจนะครับ เพราะว่าแม้จะไม่ได้เ)นแฟนอะไร แต่มีคอนเสิร์ตดีๆมาให้ดู สำหรับผมแล้วก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเสมอครับ โดยเฉพาะงานนี้ที่เป็นวง Mogwai วงโพสต์ร๊อคฝีมือดีจากอังกฤษ ทำให้เพิ่มความน่าสนใจเข้าไปอีก และยิ่งมีคนมาแนะนำให้ได้รู้จักวง toe วงญี่ปุ่นที่จะมาเล่นเปิดให้ พอได้หามาลองฟังแล้ว ยอมรับฝีมือเลยครับ ยิ่งทำให้ความอยากไปดูเพิ่มมากขึ้นอีก
สถานที่จัดงานคราวนี้คือ Moonstar Studio ที่ลาดพร้าว 80 ซึ่งก็สะดวกสำหรับผมเพราะอยู่ใกล้ๆบ้านของตัวเองดี ซิ่งมอเตอไซค์คู่ชีพไปแป๊บเดียวก็ถึง ผมค่อนข้างจะสนใจแนวคิดเอาสตูดิโอถ่ายละครมาทำเป็นที่จัดคอนเสิร์ตขนาดนี้ เพราะไม่ใหญ่เกินไป ทำให้ได้ใกล้ชิดวงดนตรี แต่ปัญหาอย่างแรกคือ อยู่ลึกเกินไป คนไปลำบาก ยังต้องคิดถึงตอนกลับอีกนะครับ
พอไปถึงงาน คนเยอะกว่าที่คิดไว้มากครับ ไม่นึกว่าจะมีแฟนเพลงมาเยอะขนาดนี้ แถมชาวต่างชาติก็ไม่ได้เยอะแบบถล่มทลายแบบคอนเสิร์ตที่ผ่านมาอย่าง The Charlatans แต่ก็ได้เจอกับคนเกาหลีที่มุ่งมั่นจะมาดูมากๆเพราะเป็นแฟน Mogwai ผมกับเพื่อนั่งซดเบียร์รอซะหน่อย ก็เข้าไปในฮอล์โดยผ่านการเบียดเข้าประตูที่เล็กพอๆกับประตูห้องนอนผม
ตอนเข้าไป วง toe จากญี่ปุ่นก็เริ่มเล่นแล้ว ข้างๆผมก็มีคนญี่ปุ่นตามมาดูเหมือนกัน อย่างที่บอกว่าผมไม่เคยฟังพวกเขาจริงๆจังๆมาก่อน แต่พอมาได้ฟัง ก็ตื่นเต้นมากครับ พวกเขาไม่ตั้งหน้าตั้งตาเล่นอย่างจริงจังมาก แล้วเพลงของพวกเขามีความเป็นฟังค์ผสมอยู่เยอะเหมือนกัน ลูกเล่นลูกขัดแพรวพราวมาก จนผมต้องอึ้ง แม้จะไม่มีเนื้อร้อง แม้ว่านักดนตรีจะทักทายด้วยภาษาอังกฤษกระท่อนกระแท่น แต่ดนตรีคือภาษาสากลที่ส่งผ่านจากคนต่อคนได้ และความทุ่มเทของพวกเขาส่งผ่านมาถึงคนดูจริงๆ ผมเองได้แต่ยืนทึ่งกับพลังงานที่ส่งผ่านมาพร้อมกับตัวโน๊ตของพวกเขา ยิ่งดูเวลาพวกเขาเล่น ได้แต่รู้สึกเหมือนกับว่าพวกเขามีความสุขกับการเล่นดนตรีอย่างเต็มที่จริงๆ มันคือการแสดงที่เปี่ยมไปด้วยวิญญาณตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ
หลังจากจบ ก็เสียเวลาเซ็ตเครื่องใหม่ให้วง Modern Dog พร้อมเล่น และปัญหาก็เกิดขึ้นเมื่อประตูเล็กๆต้องรองรับคนที่จะออกไปพักข้างนอก พร้อมๆกับคนที่จะกลับเข้ามา ทำให้เกิดการจราจรติดขัดอย่างหนักจริงๆ
พอวงหมาทันสมัยเริ่มเล่น ก็กลายเป็นว่า ความเมพของวงก่อนหน้า ทำให้พลังของ Modern Dog ถูกกดไว้ซะเยอะเลย ถ้าเป็นคอนเสิร์ตเดี่ยวของพวกเขา ผมคงสนุกได้มากกว่านี้ แต่นี่กลายเป็นว่าเพราะวงก่อนหน้าทำให้ผมฟินมากๆไปแล้ว Modern Dog เลยแผ่วไป พวกเขาพยายามเลือกเล่นเพลงที่โทนคล้ายโพสร๊อคและไม่มีเพลงประจำอย่างบุษบา ก่อน หรือ ติ๋ม ก็ถือว่า กล้าดีครับ แต่ก็ยังปิดท้ายด้วยเพลง ตาสว่าง ได้อย่างงดงามครับ
หลังจากฝ่าฝูงชนออกไปเข้าห้องน้ำข้างนอกและเบียดกับผู้คนเข้ามารอได้ซักระยะ Mogwai ก็ขึ้นเล่นพร้อมทั้งคนเตมฮออล์ เยอะกว่าที่คาดคิดไว้มากครับ (จนผู้จัดต้องออกตั๋วเพิ่ม) ซึ่งพวกเขาก็กระหน่ำเพลงโพสต์ร๊อคของพวกเขาแบบไม่ยั้งด้วยการเริ่มต้นอย่างเบาๆก่อนด้วยเพลง White Noise จากงานชุดใหม่พร้อมกับงาน visual สวยๆบนจอ
ผมเองไม่เชี่ยวชาญเพลงของ Mogwai มาก เลยอยากจะขอสรุปง่ายๆว่า พวกเขาคุมคนฟังได้อยู่หมัดด้วยตัวเลือกแต่ละเพลงที่เต็มไปด้วยพลัง ประกอบกับงานแสงสีและภาพที่เข้ากันอย่างมาก ทำให้ตลอดเกือบสองชั่วโมงเ ไม่มีเวลาที่เราไม่สนุกเลย แต่ละเพลงที่เลือกมาก็เด็ดดวงทั้งนั้น อย่างเช่น Death Rays, Hunted, Mexican GP และ 2 Rights Make 1 Wrong ก่อนจะปิดท้ายช่วงอย่างทรงพลังด้วย Batcat ที่กระหน่ำอย่างหนักหน่วง จนเสียงกีตาร์พัดผ่านตัวเราราวกับพายุที่บ้าคลั่ง ไม่นับแสงสีบนเวทีที่กระหน่ำไม่ยั้ง จนตอนจบเพลงเล่นเอาหมดพลังเลยทีเดียว
แต่พวกเขาก็กลับมาต่ออีก 2 เพลงในช่วงอังกอร์ด้วยเพลง How to Be a Werewolf ที่ทริปสุดๆ ยิ่งเอา MV มาฉายด้วยยิ่งได้บรรยากาศ ก่อนจะปิดท้ายด้วยเพลงดังอย่าง Mogwai Fear Satan ที่ตอนท้ายลากยาวและสมาชิกค่อยๆลงจากเวทีไปทีล่ะคนจนทีมงานค่อยมาให้สัญญาณปิดแสงสีและเสียงพร้อมๆกันอย่างน่าตื่นตา
สรุปคอนเสิร์ตครั้งนี้ได้ง่ายๆคือน่าตื่นตาตื่นใจและคุ้มราคาเอามากๆ แต่ติงเพียงเรื่องสถานที่จัดที่แม้จะคุมระบบเสียงได้ดีมาก แต่ปัญหาเรื่องความสะดวกในการเดินทาง และการเข้าออก รวมทั้งห้องน้ำควรได้รับการปรับปรุงครับ หวังว่าครั้งหน้า The Naked and Famous จะไม่มีปัญหาเหมือนครั้งนี้นะครับ เอาใจช่วยผู้จัดอย่าง Lullaby ครับ
บทความที่เกี่ยวข้อง
No comments:
Post a Comment