จริงๆแล้ว สัปดาห์นี้ บอกตรงๆว่า มีสองเรื่องที่ผมอยากเขียนมากกว่าเรื่องดนตรีก็คือ 1. เรื่องกีฬาเกี่ยวกับการประกาศเลิกเล่นของ เลดลีย์ คิง กองหลังของทีมสเปอร์ ทีมรักของผม ซึ่งอยากจะเขียนเกี่ยวกับนักฟุตบอลประเภท One Man One Club ซึ่งนับวันก็ยิ่งหาได้ยากขึ้นเรื่อยๆ แต่กลัวว่าจะเป็นการสรรเสิญเลดลีย์มากเกินไปตามประสาแฟน (ฮา) กับอีกเรื่อง 2. คือ เรื่องภาพยนต์ The Dark Knight Rises ที่พึ่งไปดูมาเมื่อคืนนี้ (ศุกร์ที่ 20) ด้วยความตื่นเต้นตามประสาแฟนการ์ตูนที่ชอบแบทแมนมาตั้งแต่เด็ก แต่มานึกอีกที เขียนไปก็กลัวเผลอสปอยล์ไป แถมจะชมจนเวอร์เกินเพราะความเป็นแฟนนี่ล่ะ 3. การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการฟังเพลง จากแผ่นมาเป็นไฟล์ เพราะได้อ่านคอลัมน์ของอาจารย์นอกตำราของผมอย่างคุณอาทิตย์ พรหมประสิทธิ์ใน Esquire ซึ่งรู้สึกอย่างเดียวกันจริงๆ แต่ก็จะเป็นการก๊อบไอเดียไป (ฮา) เลยขอกลับมาเรื่องดนตรีเหมือนเดิมดีกว่า เพราะก็มีเรื่องน่าสนอย่างวงน้องใหม่จากลอนดอนที่ชื่อ Zulu Winter
ที่บอกว่าน้องใหม่ เพราะว่าพวกเขา Zulu Winter พึ่งฟอร์มวงเมื่อต้นปีที่แล้วเอง ใช้เวลาแค่ปีกว่าๆก็ได้ออกผลงานอัลบั้มเต็มแล้ว ถือว่ารุ่งขึ้นมาได้อย่างรวดเร็วจริงๆ Zulu Winter คือวงของเพื่อนตั้งแต่สมัยเด็ก โดยสมาชิกคือ Will Daunt (วิล ร้องนำ) Iain Lock (เอียน? เกิดมาพึ่งเคยเจอ เบส) Henry Walton (เฮนรี่ กีตาร์) Dom Millard (ดอม คีย์บอร์ด) และ Guy Henderson (กาย กลอง) เริ่มเล่นดนตรีด้วยกันตั้งแต่อายุ 15ก่อนออกแยกย้ายไปเรียนมหาวิทยาลัยตามทางใครทางมัน และทำงานเพลงอื่นไปด้วย แต่สุดท้าย พวกเขาก็กลับมารวมตัวกันในลอนดอนในช่วงต้นปีที่แล้วเพื่อทำงานเพลงร่วมกันอีกครั้ง เพราะมันคือสิ่งเดียวที่พวกเขามีความสุขในการทำมัน โดยเรียกตัวเองว่า Zulu Winter
หลังจากซ้อมและพยายามแต่งเพลงร่วมกันได้ไม่นาน พวกเขาก็ถูกค่ายอินดี้ระดับเทพอย่าง Fierce Panda ดึงตัวไปเข้าสังกัดเพื่อออกซิงเกิ้ลกับEP แต่พวกเขาก็ไม่ได้ทำอะไรได้จริงจังจนวันนึงพวกเขาก็เปลี่ยมทีมดูแลออกหมดแล้วหันมาตั้งหน้าตั้งตาทำงานเพลงเอง จนในที่สุดเพลงสองเพลงก็ถูกอัพขึ้นบล๊อกของพวกเขา และทันใดนั้น พวกเขาก็กลายเป็นวงที่มาแรงสุดๆอีกวงหนึ่งทันที
บรรดาผู้จัดการนักดนตรีต่างๆก็พากันเข้ามาจีบพวกเขา จนแต่ละวันพวกเขาหมดเวลาไปกับการซ้อมและคุยธุรกิจ แต่ในที่สุดคนที่ได้ใจและลายเซ็นพวกเขาไปก็คือ James Sandom ผู้จัดการวงที่เคยสร้างวงอย่าง Kaiser Chiefs, The Vaccines และ White Lies จึงไม่แปลกว่าทำไมทางวงเลือกให้เขามาจัดการให้ เพราะนอกจาผลงานที่ผ่านที่ที่จัดได้ว่าอยู่ในระดับ High Profile แล้ว แนวทางของวงที่เขาเคยจัดการมาก็ค่อนข้างคล้ายกับแนวเพลงของ Zulu Winter ด้วย
หลังจากออกซิงเกิ้ลมาได้สองแผ่น และออกทัวร์กับวงรุ่นพี่อย่าง Friendly Fires ในที่สุดพวกเขาก็ได้ออกอัลบั้มเต็มชุดแรกของพวกเขาในช่วงกลางปีนี้นั่นเอง นั่นคือ Language
จริงๆแล้ว การทำเพลงกีตาร์ ร๊อค/ป๊อป ในช่วงปีนี้จัดได้ว่าเสี่ยงเอาเรื่องเหมือนกัน เพราะเทรนด์เพลงเริ่มจะห่างจากกีตาร์มากขึ้นไปเรื่อยๆ การทำเพลงกีตาร์ร๊อคกลายเป็นเหมือนเรื่องเชยๆไป แต่พวกเขาก็ไม่สนใจ เพราะตราบเท่าที่ยังมีวงกีตาร์ดีๆอยู่ พวกเขาก็ยังมีโอกาสเช่นกัน
Language เป็นงานเพลงกีตาร์ร๊อคผสมกับเพลงป๊อปที่ฟังได้สบายๆ เสน่ห์ของพวกเขาคงอยู่ที่เสียงกีตาร์ กับจังหวะกลองที่เหมือนกับหยิบยืมมาจากชนเผ่าจากส่วนลึกของกาฬทวีป ลองนึกถึงส่วนผสมของ Friendly Fires+The Vaccines+Coldplay+Foals ก็จะได้ Zulu Winter นั่นเอง ซึ่งส่วนผสมดังกล่าวก็ชัดเจนในซิงเกิ้ลแรก Never Leave ที่ลงตัวตามส่วนผสมที่บอกไว้จริงๆ เช่นเดียวกับอีกเพลงที่เป็นซิงเกิ้ลคู่กันอย่าง Let’s Move Back to Front ที่เดินด้วยจังหวะที่โดดเด่นก่อนที่เสียงกีตาร์จะเข้ามาแทรกเสริมเป็นจังหวะ ขณะที่ซิงเกิ้ลที่สอง We Should Be Swimming ที่ออกจะเข้มข้นกว่าเดิม คล้ายกับ The Vaccines มาขึ้น จังหวะของพวกเขาในแต่ละเพลงมันช่างยิ่งใหญ่จนเรารู้สึกถึงความทะเยอทยานที่จะก้าวตามรอย U2 อีกด้วย ตัวอย่างก็เช่นเพลง Bitter Moon ขณะที่ถ้าหากคุณอยากจะฟังเพลงที่เป็นเพลงป๊อปฟังง่ายขึ้นกว่าเดิม ก็สามารถกดไปฟัง Key to My Heart หรือ Silver Spoon ที่เป็นเพลงป๊อปฟังสบายๆได้ โดยเฉพาะเพลงหลังที่จังหวะออกจะย้อนกลับไปยุค 80 ให้ได้รำลึกความหลังเพลินๆด้วย
Zulu Winter เปิดตัวในวงการเพลงได้อย่างงดงามไม่น้อย และเพลงของพวกเขาก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวังเลย จากนี้ไปคงเชียร์กันได้ยาวๆสำหรับแฟนเพลงฝั่งอังกฤษ
มีประชาสัมพันธ์อีกนิดนึงคือ ขอแนะนำงานอัลบั้มรวมเพลงชุดใหม่ของป้าไคลี่ มิน๊อก อันเป็นที่รักยิ่งครับ จริงๆเห็นป้าออกงานรวมเพลงชุดใหม่ก็ตกใจหน่อย เพราะจำได้ว่า ปีที่แล้วพึ่งออกไปชุดนึง มี DVD แถมด้วย พอมาปีนี้ ออกอีกแล้ว แล้วยังมีDVDแถมเหมือนกันอีก เรียกได้ว่าถี่เหมือนกัน แต่พอดูจริงๆ อัลบั้มรวมฮิตตัวใหม่นี่ เพลงเยอะกว่าครีบ รวมไปถึง 21 เพลง พร้อม MV ครบใน DVD เลย และที่เจ๋งคือ รวบรวมเพลงยุคแรกของเธออย่าง I should be so lucky, Celebration หรือ Locomotion ไว้ด้วย และยังมีเพลงที่ดูเอทกับร๊อบบี้วิลเลี่ยมส์อย่าง Kids อีกต่างหาก ส่วนเพลงดังๆก็ไม่พลาดครับ อยู่ครบหมด จะขาดก็แค่เพลง Did It Again ที่ผมค่อนข้างชอบด้วยความแหวกแนวในอัลบั้ม Impossible Princess ที่ถูกลืม (ยิ่งถ้ามีเพลงที่ดูเอทกับนิค เคฟ คงจะดีกว่านี้เยอะเลย) เหมาะสำหรับแฟนๆหามาเก็บไว้ครับ
No comments:
Post a Comment